Binance หนึ่งในบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศหยุดให้บริการแก่บัญชีของลูกค้ารายใหญ่ในรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยได้ยกเลิกบริการในประเทศรัสเซียตามมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป
Binance บอกกับผู้ใช้ว่าชาวรัสเซียและผู้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศ รวมถึงบริษัทใด ๆ ที่ตั้งอยู่ในนั้น ที่ถือคริปโตฯ มูลค่ากว่า 10,000 ยูโร ($10,900) จะถูกห้ามไม่ให้ทำการฝากเงินใหม่หรือซื้อขาย ซึ่งอย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวจะยังสามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้
โดยสำหรับบัญชีผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย ซึ่งหลังจากการตรวจสอบแล้ว และพบว่าถือคริปโตฯ มูลค่าน้อยกว่า 10,000 ยูโรจะยังคงใช้บริการ Binance ได้ตามเดิม ซึ่งนี่นับว่าเป็นระลอกที่ห้าของการคว่ำบาตรต่อรัสเซียแล้ว โดยในเดือนนี้สหภาพยุโรปพุ่งเป้าหมายไปที่กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้ในการจัดเก็บ ส่ง รับ และใช้จ่ายคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในวงกว้างเพื่อปิดช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้ชาวรัสเซียยังสามารถเคลื่อนย้ายเงินไปต่างประเทศได้
Binance พร้อมด้วยบริษัทแลกเปลี่ยนรายใหญ่ของสหรัฐฯ Coinbase Global Inc และ Kraken ได้ปฏิเสธการเรียกร้องจาก Kyiv ในการสั่งแบนผู้ใช้ชาวรัสเซีย หลังจากประธานาธิบดี Vladimir Putin สั่งบุกยูเครน ซึ่งมอสโกเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษ” เพื่อทำให้ปลอดทหาร
Binance กล่าวในเดือนมีนาคมว่าจะไม่ “ระงับบัญชีผู้ใช้ทั่วไปอย่างเดียว” เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร
นอกจากนี้ Binance ยังกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าผู้ถือบัตรของธนาคารรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร จะไม่สามารถใช้บัตรบนแพลตฟอร์มได้ และยืนยันว่าบุคคลที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันถูกจำกัดการเข้าถึงเช่นกัน
การคว่ำบาตรนี้ถือว่าเป็นการเพิ่มความกดดันต่อรัสเซียเป็นอย่างมาก โดยจากการคว่ำบาตรในด้านอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ทำให้ค่าเงินรูเบิลรัสเซียอ่อนค่าลงอย่างมาก ส่งผลให้หลายฝ่ายเข้ามาพึ่งคริปโตฯ แทน จึงนับว่าเป็นการทำให้หนทางการเอาตัวรอดของรัสเซียน้อยลงไปทุกที แต่การคว่ำบาตรนี้จะส่งผลต่อตลาดคริปโตฯ อย่างไรก็ยังคงเป็นที่น่าจับตาดู
ที่มา : reuters.com