‘Fed’ เตรียมทำ QT ลดขนาดงบดุล และอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% เพื่อรับมือเงินเฟ้อรุนแรง

List of Contents

มีการรายงานผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะทำการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในเวลานี้

โดยรายงานผลการประชุม คือ ผู้เข้าร่วมประชุมต้องการให้ FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ FED ในตอนนี้

ประธาน FED นาย Jerome Powell กล่าวว่า ในตอนนี้ FED จำเป็นจะต้องดำเนินมาตรการอย่างรวดเร็ว เพราะภาวะเงินเฟ้อนั้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี และมีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อราคาอาหาร และพลังงานโลก

แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่บังคับใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดจนเกินไป เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ดูได้จากสถานการณ์ในตลาดแรงงานที่อัตราการว่างงานลดต่ำลงจนแตะระดับต่ำสุดในช่วงก่อนที่โรคโควิด-19 จะระบาดที่ 3.6%

รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ นาง Janet Yellen ได้ออกมาเตือนเมื่อวานนี้ว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของนานาประเทศทั่วโลกอย่างมหาศาล

นอกจากการเร่งเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว FED ยังมีท่าทีจะเร่งเตรียมมาตรการปรับลดขนาดงบดุล หรือ QT จากระดับสูงสุดเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ และจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของ FED ได้สร้างความกังวลใจต่อนักลงทุนในตลาด Wall Street และเกิดแรงเทขายครั้งใหญ่ ทำให้ในสัปดาห์นี้ ดัชนีสำคัญในตลาดเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเกิดการร่วงอย่างหนัก

  • Dow Jones ปรับตัวลดลง 280.70 จุด (0.80%) ปิดที่ 34,641. betfinal عربي 18 จุด
  • S&P 500 ปิดตัวร่วงลง 57.52 จุด (1.26%) ปิดที่ 4,525.12 จุด
  • Nasdaq ปรับลดลงมากที่สุด ลดลง 328.39 จุด (-2.26%) ปิดที่ 14,204.17 จุด
เพดานหนี้
เปิดข้อตกลงเพดานหนี้ของ ‘โจ ไบเดน-เควิน แมคคาร์ธี’ ก่อนส่งให้สภาคองเกรสโหวตวันพรุ่งนี้!

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้สำเร็จ แต่กว่าจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ทั้งสองฝ่ายก็ผ่านการเจรจามาหลายครั้ง และแลกมาด้วยเงื่อนไขต่าง

bitcoin
Bitcoin อาจขึ้นไปแตะ $45,000 จาก ‘ปัจจัย’ เหล่านี้ ?!

นักวิเคราะห์ JPMorgan ได้ออกมาเผยถึงปัจจัยที่จะดันให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้น โดยเผยว่าหาก BTC เริ่มทำราคาและโครงสร้างการลงทุนที่มีความคล้ายคลึงกันกับทองคำมากขึ้น อาจจะส่งผลให้ราคาของ Bitcoin