Goldman Sachs ธนาคารเพื่อการลงทุนซึ่งถือเป็นรายใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีหน้า (2024)
ซึ่งอัตราดอกเบี้ยมีความเชื่อมโยงกันกับความเสี่ยงที่นักลงทุนจะยอมรับได้ โดย Goldman Sachs ได้เคยคาดการณ์ไว้ว่า FED จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกภายในเดือนธันวาคม 2024 แต่ถูกยกมาเป็นไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 แทน เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ทั้ง 2 ครั้ง อาจจะทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.875% ภายในสิ้นปี 2024 จากที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5.13%
ด้าน FED ได้มีการเริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยให้เข้มงวดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2022 ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยมีการปรับขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ 0%–0.25% ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดหวังไว้ในปี 2024 รวมถึงเหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่กำหนดไว้ในเดือนเมษายน อาจจะเป็นตัวเร่งให้เกิดภาวะกระทิงหลังการ Halving ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อ FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ เช่น พันธบัตรและสินทรัพย์ตราสารหนี้อื่น ๆ ที่มีผลตอบแทนที่มั่นคง และย้ายเงินทุนออกจากสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ในทางกลับกันหากมีการปรับอัตราดอกเบี้ยลง เงินก็จะไหลกลับสู่ตลาดตราสารทุนและตลาดสกุลเงินดิจิทัลอีกครั้งนั่นเอง
Source : Cointelegraph
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News