ผู้ค้าทอง ชี้ราคาทองคำวันนี้ พุ่งทะยานทำนิวไฮ เนืองจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนกระตุ้นนักลงทุนถือครองเพิ่ม หากยืดเยื้อมีโอกาสเห็นแตะ 33,000 บาท
วันนี้( 9 มี.ค.65) นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนขณะนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่รายวัน โดยเปิดตลาดเช้านี้เมื่อเวลา 09.28 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 31,900.00 บาท ขายออกบาททองคำละ 32,000.00 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 31,320.56 บาท ขายออกบาททองคำละ 32,500.00 บาท
โดยนายกสมาคมค้าทองคำ มองว่า หากสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนยังยืดเยื้อก็มีโอกาสที่ทองคำจะขยับขึ้นไปเรื่อยๆ โดยมองแนวต้านไว้ที่ 33,000 บาท และแม้จะมีความเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาหลายรอบแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า แต่หากความขัดแย้งคลี่คลายลงก็จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวร่วงลงแรงเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังเนื่องจากมีความผันผวนสูง
สำหรับสถานการณ์ซื้อขายทองคำในประเทศวันนี้ มีประชาชนนำทองรูปพรรณที่เก็บสะสมไว้ออกมาขายให้กับร้านทองเป็นจำนวนมาก อาจทำให้จำนวนเงินสดที่ร้านทองสำรองไว้มีปริมาณไม่เพียงพอจนต้องออกเป็นเช็คให้ลูกค้าแทน แต่ร้านทองไม่ได้มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง เพียงแต่การเบิกเงินสดจำนวนมากต้องแจ้งธนาคารล่วงหน้า 1 วัน
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยราคาทองคำต่างประเทศวานนี้ ว่า ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 52.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยทั้งในแง่เทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน ทั้งแรงซื้อตามทางเทคนิคหลังจากที่ราคาทองคำทะลุผ่านแนวต้านจิตวิทยา และ Neckline ของ Invert H&S บริเวณ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ความวิตกว่าความตึงเครียดในยูเครนจะลุกลามจนกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจทั่วโลกและกระตุ้นเงินเฟ้อ ท่ามกลางพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน การอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์จากแรงขายทำกำไร และการเปิดเผยตัวเลขเศรษบกิจสหรัฐที่ออกมาแย่เกินคาด การแข็งค่าของยูโร และกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มอีก +4.64 ตัน สะท้อนกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETF ทองต่อเนื่อง ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดอยู่เบื้องหลังการทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 2,069.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งไม่ไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ขึ้นไปทดสอบในวันที่ 7 ส.ค. 2020
