ถอดบทเรียน! 5 เหตุการณ์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ปี 2023 กับความท้าทายการลงทุนปี 2024

5 เหตุการณ์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ปี 2023 เรียกได้ว่า เป็นปีที่สร้างความท้าทายให้แก่นักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะเศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความผันผวนตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED, อสังหาริมทรัพย์เข้าขั้นวิกฤต หรือแม้แต่สงครามทางการเมืองที่กำลังยืดเยื้อ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าโลกกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จนเป็นเหตุให้เศรษฐกิจในปี 2024 ที่จะถึงนี้อาจไม่สดใสเท่าที่มันควรจะเป็นครับ 

ดังนั้นแล้ว ในบทความนี้ทีมงาน Gotradehere ได้ทำการถอดบทเรียน 5 เหตุการณ์สำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ในปี 2023 ไปจนถึงปี 2024 เพื่อให้นักลงทุนสามารถปรับแผนการลงทุนได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที จะมีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้างนั้น? ไปหาคำตอบกันครับ!

ไทม์ไลน์ 5 เหตุการณ์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ปี 2023

เหตุการณ์สำคัญ : อันดับที่ 1 จีนเปิดประเทศ ต้นปี 2023

ที่มา: Council on foreign relations

เริ่มต้นปี 2023 ด้วยเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้นานาประเทศตื่นตัว คือ จีนยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและสนับสนุนนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศ รวมทั้ง ยังเปิดประเทศต้อนรับชาวต่างชาติอีกครั้ง ในวันที่ 8 มกราคม ปี 2023 ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่ทำให้หลายประเทศต้องเตรียมรับมือกับนักท่องเที่ยวชาวจีน เพราะการเปิดประเทศของจีนถือเป็นข่าวดีที่จะช่วยกระตุ้นการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ แต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ก็ทำให้แต่ละประเทศไม่นิ่งนอนใจเตรียมเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนภายในประเทศ

ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและนักลงทุนอย่างไร?

• กระตุ้นการไหลเวียนของสินค้าและบริการต่างประเทศ ส่งผลดีต่อประเทศคู่ค้าอย่างประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐอเมริกา
• ช่วยชะลอการถดถอยของเศรษฐกิจโลก เพราะจีนเป็นประเทศที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มอุปสงค์สินค้าและบริการจากทั่วโลก
• กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนไปเยือน
• ช่วยบรรเทาปัญหาห่วงโซ่อุปทานของโลก

เหตุการณ์สำคัญ : อันดับที่ 2 Silicon Valley Bank ล่มสลาย

ที่มา: NPR

ถัดมาที่เหตุการณ์ช็อกโลกของธุรกิจสตาร์ทอัปอย่างธนาคาร Silicon Valley Bank หรือ SVB เกิดการล่มสลาย เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่ง Silicon Valley Bank เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของสหรัฐอเมริกา โดยให้บริการเกี่ยวกับการรับฝากเงินในการลงทุนหลักทรัพย์ในระยะยาวของธุรกิจสตาร์ทอัปและเทคโนโลยี

โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธนาคารนี้ เกิดการล่มสลายมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกอบกับแต่เดิมธนาคารเกิดวิกฤตด้านโครงสร้างที่สะสมมาเรื่อย ๆ จากความผันผวนของสภาพคล่องทางด้านการเงิน เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มถอนเงินออกมาหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก ในระยะเวลาพร้อม ๆ กัน เกิดเป็น Bank Run ครั้งใหญ่ที่นำไปสู่การปิดกิจการของ Silicon Valley Bank อย่างเป็นทางการ ซึ่งการล่มสลายของ SVB นับเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในวงการธนาคารของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา

ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและนักลงทุนอย่างไร?

• ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัปและธุรกิจเทคโนโลยีทั่วโลกที่ฝากเงินกับ SVB
• การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เกิดการชะลอตัวและเศรษฐกิจโลกเกิดความผันผวน
• ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดการเงิน
• ต้นทุนการกู้ยืมของธนาคารพุ่งสูงขึ้น

เหตุการณ์สำคัญ : อันดับที่ 3 อสังหาริมทรัพย์จีนเข้าขั้นวิกฤต

ที่มา: CNN Business

มาต่อกันที่เหตุการณ์สำคัญอันดับที่ 4 คือ อสังหาริมทรัพย์จีนเข้าขั้นวิกฤต โดยเริ่มต้นวิกฤตนี้เริ่มมาตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2019 ส่งผลให้ “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังอยู่ในช่วงขาลง” ซึ่งบริษัทอสังหารริมทรัพย์เจ้าใหญ่ของจีนอย่างบริษัท China Evergrande Group ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดได้ จนเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2023 บริษัท China Evergrande Group ได้ยื่นคำร้องขอความคุ้มครองการล้มละลายต่อศาลสหรัฐฯ เพราะบริษัทมีการแบกหนี้มากถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

ต่อมาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Country Garden Holdings Co., Ltd. ได้ผิดนัดชำระหนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนส่อแวววิกฤตขั้นรุนแรง เพราะบริษัท Country Garden มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของจีน โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากรัฐบาลจีนได้ดำเนินนโยบายควบคุมการขยายตัวของหนี้สินภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างเข้มงวด ทำให้บริษัทเกิดการระงับการซื้อขายหุ้นกู้ในประเทศ (Onshore Bonds) และต่างประเทศ (Offshore Bonds) เป็นเหตุให้ราคาหุ้น Country Garden ในตลาดเซี่ยงไฮ้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 0.98 ดอลลาร์ฮ่องกง

ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและนักลงทุนอย่างไร?

• วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ของจีนส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจโลก เพราะอสังหาริมทรัพย์จีนสามารถคิดเป็นสัดส่วนได้ถึง 48% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในจีน (GDP)
• ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจสั่นคลอน
• ธนาคารมีความเสี่ยงในการขาดทุนจากการปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหาทางด้านการเงิน

เหตุการณ์สำคัญ : อันดับที่ 4 สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

ที่มา: The Newyork Times

ปิดท้ายกันที่เหตุการณ์สำคัญอันดับที่ 5 ซึ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานมานี้ อย่างสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส (ปาเลสไตน์) ในฉนวนกาซา ส่งผลให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง โดยสาเหตุของการเกิดสงครามครั้งนี้ เกิดจากกลุ่มฮามาสได้ยิงจรวดหลายพันลูกใส่อิสราเอลโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลอิสราเอลประกาศสงครามกับกลุ่มฮามาสอย่างเป็นทางการ ซึ่งสงครามยังคงยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน โอยอัตราผู้เสียชีวิตจากการโจมตีในครั้งนี้ อยู่ที่ 18,800 คน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากสงครามยังไม่ยุติ

ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและนักลงทุนอย่างไร?

• ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก เป็นเหตุให้ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลง แต่หุ้นบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับสงครามอาจมีมูลค่าสูงมากขึ้น เช่นหุ้นเกี่ยวกับอาวุธ, การรักษาความปลอดภัย และหุ้นตั้งรับกลุ่มสินค้าจำเป็น เป็นต้น
• ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูง เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Heaven)

เหตุการณ์สำคัญ : อันดับที่ 5 เงินเยนอ่อนค่ามากสุดในรอบ 26 ปี

ที่มา: Reuters

เงินเยนอ่อนค่ามากสุดในรอบ 26 ปี โดยสาเหตุสำคัญเป็นผลมาจากการปรับนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ -0.1% และควบคุมผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) ไว้ที่ 1.0% ซึ่งสวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ เกิดเป็นช่องว่างของอัตราดอกเบี้ยที่กว้างขึ้นระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ส่งผลให้เงินเยนจะยังคงอ่อนค่าไปจนถึงต้นปีหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในประเทศญี่ปุ่นจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ว่า BOJ จะคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ เพื่อช่วยพยุงค่าเงินเยนไม่ให้อ่อนค่ามากไปกว่านี้

ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและนักลงทุนอย่างไร?

• นักลงทุนเกิดการเทขายเงินเยนและหันไปลงทุนในดอลลาร์สหรัฐที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง
• ส่งผลกระทบต่อบริษัทซัพพลายเออร์ขนาดเล็กในต่างประเทศต้องนำเข้าราคาวัสดุที่พุ่งสูงขึ้น
• ตลาดตราสารทุนในประเทศญี่ปุ่นยังคงคึกคัก เพราะดัชนี Nikkei 225 แตะระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 1990 และคาดว่าจะยังคงทำ New High อยู่
• ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงผันผวน เพราะเงินเยนถือเป็นหนึ่งในสกุลเงินยอดนิยม

วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก 2024 : ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องติดตาม

เห็นได้ว่า เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นทั่วโลกล้วนส่งผลกระทบต่อนักลงทุนทั้งสิ้น โดยในปี 2024 ภาพรวมเศรษฐกิจในแต่ละประเทศจะชะลอตัวไม่เหมือนกัน (Uneven Slowdown) เพราะภาวะดอกเบี้ยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและคงค้างไว้เป็นเวลานานในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวไปจนถึงปีหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของภาคการส่งออกและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ย เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งประเทศอเมริกาและญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อในประเทศ ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจยังสามารถชะลอตัวแบบจัดการได้ (Soft Landing) ในขณะที่ประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นอย่างมากและมีปัจจัยถ่วงเฉพาะตัวที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวค่อนข้างมาก

ในส่วนของดอกเบี้ยแม้จะสูงนาน แต่ตลาดก็คาดหวังว่าในปี 2024 จะได้เห็นการลดอัตราดอกเบี้ย โดย SCB CIO คาดว่าธนาคารกลาง (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในไตรมาสที่ 3 ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงปรับมาตรการการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้นในช่วงต้นปี ก่อนที่จะทำการยกเลิกมาตรการ YCC และนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในช่วงกลางปีต่อไป

สำหรับความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องติดตาม นั่นคือ ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจเติบโตช้า (Stagflation) แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่ประกอบกับความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองในหลายประเทศจะส่งผลให้ตลาดการลงทุนเกิดความผันผวน จากความไม่แน่นอนของการลงทุนระหว่างประเทศได้

Tip! นักลงทุนควรปรับตัวอย่างไร?

จากที่กล่าวไปข้างต้น เห็นได้ว่า รวม 5 เหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ปี 2023 ล้วนส่งผลสำคัญต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก ดังนั้น นักลงทุนควรปรับตัวพร้อมกับติดตามเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เพื่อนำไปปรับใช้และวางแผนการลงทุนได้อย่างทันท่วงที ซึ่งทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 3 วิธีที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ ดังต่อไปนี้ 

1. ติดตามข่าวสารการลงทุนที่สำคัญ

วิธีการแรก คือ นักลงทุนควรติดตามข่าวสารการลงทุนที่สำคัญ เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนของคุณให้เหมาะสมกับสถานการณ์โลก โดยในระยะเวลา 1 ปี ควรปรับพอร์ตอย่างน้อย 1-2 ครั้ง หรือปรับทุก ๆ 6 เดือน เพื่อสามารถสลับสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ นักลงทุนควรลงทุนในสินทรัพย์ที่มีพื้นฐานดีและมีความยืดหยุ่นตามการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกอีกด้วย 

2. ลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท 

วิธีการที่ 2 คือ นักลงทุนควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนของคุณ โดยนักลงทุนควรเลือกลงทุนในกองทุนผสมที่มีการจัดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมและมาจากผู้เชี่ยวชาญนั่นเอง

ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีน นักลงทุนควรกระจายความเสี่ยงและทยอยลงทุน สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจสับเปลี่ยนการลงทุนจากกองทุนหุ้นจีนที่มีสัดส่วนมากกว่า 10% ขึ้นไป ให้หันไปลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ หรือหุ้นอินเดียมากขึ้น เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ และอินเดียมีแนวโน้มอยู่ในระดับที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับประเทศอื่น

3. ถัวเฉลี่ยต้นทุน

วิธีการที่ 3 คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนลักษณะนี้จะเป็นการรอจับจังหวะการลงทุนในช่วงตลาดผันผวน โดยเป็นการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินเท่า ๆ กัน เพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แม้ว่าการลงทุน DCA จะไม่ได้กำไรสูงที่สุด แต่เป็นการช่วยให้พอร์ตการลงทุนของคุณอยู่ในระยะปลอดภัยและไม่ขาดทุนจนเกินไปนั่นเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญ ปี 2023

5 เหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก 2023 มีเหตุการณ์ใดบ้าง?

• จีนเปิดประเทศต้นปี 2023
• Silicon Valley Bank ล่มสลาย
• อสังหาริมทรัพย์จีนเข้าขั้นฟองสบู่
• สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
• เงินเยนอ่อนค่ามากสุดในรอบ 26 ปี

แบงค์รันคืออะไร?

แบงค์รัน หรือ Bank Run คือ การที่ลูกค้าแห่ถอนเงินออกมาจากธนาคาร เพราะเกิดความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจหรือความไม่ไว้วางใจในการชำระหนี้ของธนาคารนั่นเอง 

แนวโน้มค่าเงินเยน 2567 เป็นอย่างไร? 

แนวโน้มค่าเงินเยน 2567 คาดว่า BOJ จะยังคงตรึงดอกเบี้ยติดลบไว้ เพื่อปรับให้ระดับเงินเฟ้อนั้นลดลงภายในปีหน้า 

สรุป 5 เหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ปี 2023

เห็นได้ว่า 5 เหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก ปี 2023 มีความสำคัญต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะเหตุการณ์สำคัญจะส่งผลกระทบให้พอร์ตการลงทุนของคุณมีโอกาสได้ทั้งกำไรหรือขาดทุน ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2024 ได้อย่างทันท่วงทีครับ

ที่มา: Kasikornbank และ Infoquest