สำหรับผู้ที่ต้องการจะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ในด่านแรกนั้นกระดานเทรดคริปโตถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งปัจจุบันนี้กระดานเทรดที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนคนไทยก็จะมีอยู่ 2 กระดานเทรดหลัก ๆ คือ Binance และ Bitkub ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่ากระดานเทรดอันไหนดีกว่า ? วันนี้ Gotradehere จะพาทุกคนไปดูว่า Binance กับ Bitkub ต่างกันอย่างไร ? มีข้อดีหรือข้อเสียอะไรบ้าง ? ไปดูกันเลย!
Binance
Binance ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 โดย Changpeng Zhao เป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก และมีสกุลเงินดิจิทัลเป็นของตนเองชื่อว่า Binance Coin (BNB) ทางกระดานเทรดมีสกุลเงินดิจิทัลให้ซื้อขายมากกว่า 350 รายการ และที่สำคัญมีค่าธรรมเนียมต่ำ ซึ่งเป็นจุดขายของ Binance นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือกับ Trust Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินเก็บสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด โดยเราสามารถย้ายคริปโตของเราจาก Binance ไปยังกระเป๋าเงินส่วนตัวได้ทันที
จำนวนคู่เหรียญในการเทรด
Binance ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 350 รายการ แต่ในประเทศไทยจะต้องทำการซื้อขายแบบ P2P เท่านั้น เนื่องจากถูกจำกัดช่องทางการชำระผ่านบัตรเครดิต โดยจะมีสกุลเงินให้เลือก ได้แก่ USDT BTC BUSD BNB ETH ADA SHIB และ DOGE ซึ่งโดยส่วนใหญ่นักลงทุนจะนิยมซื้อ USDT และ BUSD จากนั้นค่อยนำไปซื้อเหรียญอื่นต่อ โดยสกลุเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน Binance มีดังนี้
แพลตฟอร์มการเทรด
- แอพพลิเคชั่นมือถือ รองรับ iOS และ Android
- เดสก์ท็อป รองรับ MacOS และ Windows
ค่าธรรมเนียม Binance
- การฝาก/ซื้อ : ไม่มี
- การถอน/ขาย : ขึ้นอยู่กับสกุลเงินดิจทัลที่เราจะถอน เช่น หากต้องการถอน 0.1 BNB คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการถอนอยู่ที่ 0.005 BNB และสำหรับ BTC ค่าธรรมเนียมการถอนจะอยู่ที่ 0.0005 BTC
ข้อดี-ข้อเสียของ Binance
ข้อดี
- ขั้นตอนการสมัครง่าย
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อ/ฝาก
- ค่าธรรมเนียมในการถอนขาย/ถอน ต่ำ
- รองรับบัตรเดบิตและเครดิต
- มีสกุลเงินดิจิทัลให้เลือกหลากหลาย
- ได้รับความน่าเชื่อถือจากนักลงทุนทั่วโลก
- มีการซื้อขายแบบ Futures
ข้อเสีย
- ขั้นตอนการซื้อขายสำหรับมือใหม่ค่อนข้างยาก
- ไม่มี Customer Support ไทย
- ไม่รองรับการซื้อขายผ่านบัตรเดบิตและเครดิตในประเทศไทย
Bitkub
Bitkub เป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลสัญชาติไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2561 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายสำหรับคนไทยที่เป็นมือใหม่ ซึ่งสามารถฝากและถอนเป็นเงินบาทได้เลย แต่มีค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูงหากเทียบกับกระดานเทรดของต่างประเทศ และไม่มีการเทรดแบบ Future ที่สำคัญมีสกุลเงินดิจิทัลให้เลือกเทรดน้อย โดยมีเพียง 45 รายการ
จำนวนคู่เหรียญในการเทรด
Bitkub มีสกุลเงินดิจิทัลให้เลือกเทรดอย่างจำกัด ซึ่งมีเพียงแค่ 45 รายการ โดยเหรียญยอดนิยม ได้แก่ BTC ETH KUB XRP BCH และ USDT
แพลตฟอร์มการเทรด
- แอพพลิเคชั่นมือถือ รองรับ iOS และ Android
- เดสก์ท็อป รองรับ MacOS และ Windows
ค่าธรรมเนียม Bitkub
การฝาก/ซื้อ : ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน แต่มีการคิดค่าธรรมเนียมในการซื้อเหรียญอยู่ที่ 0.25%
การถอน/ขาย
- มีการคิดค่าธรรมเนียมในการขายเหรียญอยู่ที่ 0.25%
- การถอนเงินขึ้นอยู่กับช่องธนาคารที่เลือกถอน แต่ไม่สามารถทำธุรกรรมการถอนเงินได้ในเวลา 23:30 น. – 00:10 น. ของทุกวัน และถอนได้ไม่เกินครั้งละ 5,000,000 บาท โดยมีเงื่อนไขดังนี้
1. ทำรายการถอนไปยังธนาคารกสิกรไทย
- รายการถอนเงินไม่เกิน 2,000,000 บาท (ภายใน 24 ชั่วโมง)
- รายการถอนเงินเกิน 2,000,000 บาท (ภายใน 24 ชั่วโมง) แต่หากถอนหลัง 18:00 น. เป็นต้นไป เราจะได้รับเงินเข้าบัญชีธนาคารของท่านไม่เกินช่วงเวลา 10:00 น. ในวันถัดไป
2. ทำรายการถอนไปยังธนาคารอื่น ๆ : ถอนได้ครั้งละไม่เกิน 2,000,000 บาท (ภายใน 24 ชั่วโมง)
ข้อดี-ข้อเสียของ Bitkub
ข้อดี
- ใช้งานง่าย เอื้อต่อคนไทย
- มี Customer Support ไทย ตลอด 24 ชม.
- มีระบบ 2FA ทำให้มีความปลอดภัยสูง
- ฝากถอนเป็นเงินบาท
ข้อเสีย
- ค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง
- มีสกุลเงินดิจิทัลให้เลือกเทรดน้อย
- ไม่มีการซื้อขายแบบ Futures
Binance กับ Bitkub ต่างกันอย่างไร ?
ด้านฟังก์ชั่น
Binance มีฟังก์ชัน Staking Saving หรือ DeFi Staking ซึ่ง bitkub ไม่มี โดยถือเป็นฟังก์ชันที่ผู้ใช้งานนำเหรียญที่มีบนแพลตฟอร์ม Binance เข้าไปในระบบเพื่อรับดอกเบี้ย แต่มีให้เฉพาะบางเหรียญที่เข้าร่วมโปรเจคกับทาง Binance เท่านั้น
ด้านการโอนเหรียญไป Chain อื่น ๆ
Binance สามารถโอนเหรียญโดยตรงไป BEP20 (Binance Smart Chain), BTC (Bitcoin). ERC20 (Ethereum), TRC20 (TRON) และ EOS (Enterprise Operation System) ได้ แต่ Bitkub ต้องทำการแปลงเป็นเหรียญดิจิทัลที่เครือข่าย Blockchain ของกระดานเทรดหรือกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลปลายทางยอมรับก่อน โดยจะมีความยุ่งยากมากกว่า Binance เล็กน้อย
ด้านค่าธรรมเนียม
กระดานเทรด Binance จะมีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า Bitkub
ด้านสภาพคล่องของกระดานเทรด
หากมองในระดับสากลแล้วนั้น Binance นับว่าเป็นกระดานเทรดที่มีธุรกรรมเกิดขึ้นเยอะที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วน Bitkub นั้นถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีสภาพคล่องในการซื้อ-ขายเหรียญสูงที่สุดในประเทศไทย
สรุป
Binance กับ Bitkub ต่างกันอย่างไร ? จะเห็นว่า Binance มีลูกเล่นและจำนวนคู่เหรียญให้เทรดหลากหลายเมื่อเทียบกับ Bitkub แต่อย่างไรก็ตาม กระดานเทรด Binance ยังมีจุดอ่อนเรื่องข้อกฎหมายของไทย เนื่องจาก กลต. ไทยยังไม่มีการรองรับ Binance ส่วนข้อดีและข้อเสียของทั้งสองกระดานเทรดก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนเริ่มลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลแลให้ดีเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง
