ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์ On-chain แสดงให้เห็นว่า วอลุ่มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลบนเว็บเทรดชั้นนำของรัสเซียยังร่วงลดลงกว่าครึ่ง ซึ่งเป็นการหักล้างทฤษฎีที่ว่า รัสเซียจะเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร
เมื่อราคา Bitcoin ดีดตัวพุ่งขึ้นกว่า 15% เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบางคนตั้งข้อสังเกตว่า วอลุ่มการซื้อสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นอาจเป็นผลมาจากการที่รัสเซียหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามทฤษฎีนี้ดูเหมือนจะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นความเชื่อที่ผิด
โดยข้อมูลจาก Chainalysis เผยให้เห็นว่า วอลุ่มการซื้อขาย Crypto เมื่อเทียบกับสกุลเงิน
รูเบิลนั้นยังคงอยู่ที่ระดับ 34.1 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 3 มีนาคม หรือคิดเป็นตัวเลขที่ลดลงประมาณครึ่งหนึ่งจากจุดสูงสุดที่ 70.7 ล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในวันที่ 24 กุมภาพันธ์
Alexander Saunders นักวิเคราะห์ของ Citigroup กล่าวถึงเรื่องทฤษฏีการซื้อ Crypto ของรัสเซียว่า “จนถึงตอนนี้วอลุ่มการซื้อขายคริปโตของรัสเซียนั้นยังค่อนข้างต่ำ สิ่งนี้บ่งชี้ให้เห็นว่า การเคลื่อนไหวของราคาที่เพิ่มสูงขึ้นส่วนใหญ่ล้วนมาจากนักลงทุนที่คาดหวังความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากรัสเซีย ไม่ใช่ความต้องการจริง ๆ ของรัสเซีย”
แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะปฏิเสธแนวคิดที่ว่า Crypto สามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อที่จะใช้คว่ำบาตรรัสเซียในทางเศรษฐกิจได้ แต่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบกฎระเบียบของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้มงวด
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐนิวยอร์กได้เพิ่มขีดความสามารถในการเฝ้าระวังการทำธุรกรรมบนบล็อคเชนเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้สกุลเงินดิจิทัลหรือสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อสนับสนุนผลประโยชน์ของรัสเซีย
