ในวันอังคาร 28 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีคลังอาเซียนและผู้ว่าการธนาคารกลางทั้งหมดเริ่มขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยวาระสำคัญ คือ เพื่อหารือเรื่องลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ ยูโร เยน และปอนด์อังกฤษจากธุรกรรมทางการเงิน และหันไปใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการชำระเงินและทำธุรกรรม
ซึ่งที่ประชุมได้มีการหารือถึงความพยายามที่จะลดการพึ่งพาสกุลเงินหลักผ่านโครงการธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (LCT) และเป็นการต่อยอดจากโครงการ Local Currency Settlement (LCS) ซึ่งได้มีการเริ่มดำเนินการแล้วระหว่างสมาชิกอาเซียน โดยทั้งหมดนี้หมายความว่า ระบบการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนของอาเซียนจะมีการขยายออกไปอีกและได้มีการอนุญาตให้ประเทศที่อยู่ในอาเซียนใช้สกุลเงินท้องถิ่นเพื่อทำธุรกรรมหรือการค้าได้ ซึ่งจะมีข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือดังกล่าวได้บรรลุข้อตกลงระหว่างอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2022
โดยทั้งหมดได้เป็นไปตามที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคารของอินโดนีเซียระบุเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ธนาคารแห่งประเทศอินโดนีเซียกำลังเตรียมจะยกเลิก Visa และ Mastercard พร้อมจะแนะนำระบบการชำระเงินในประเทศของตนเอง
ด้าน Joko Widodo ประธานาธิบดีของประเทศอินโดนีเซียได้มีการเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารระดับภูมิภาคเริ่มใช้บัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารในประเทศและค่อย ๆ หยุดใช้ระบบการชำระเงินของต่างประเทศ อีกทั้งเขายังแย้งว่าอินโดนีเซียจำเป็นที่จะต้องปกป้องตัวเองจากการหยุดชะงักทางการเมือง และมีการอ้างถึงการคว่ำบาตรที่พุ่งเป้าไปที่ภาคการเงินของรัสเซียจากสหรัฐฯ, สหภาพยุโรปและพันธมิตรที่เกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน
อย่างไรก็ตาม บรรดาชาติประเทศอาเซียนนั้น มีเพียงแค่สิงคโปร์เท่านั้นที่บังคับใช้การคว่ำบาตรรัสเซีย ส่วนชาติอาเซียนอื่น ๆ ยังคงมีการดำเนินการค้าขายกับรัสเซียอยู่
Source: ASEANBriefing
