BOS (Break of Structure) เทคนิคสำคัญสำหรับการเข้าใจโครงสร้างราคาแบบมืออาชีพ
สรุปเทคนิคการใช้งานแบบเจาะลึกที่เทรดเดอร์ Forex ไม่ควรพลาด !
BOS Forex หรือ Break of Structure ในการเทรด Forex คือ การที่ราคาเคลื่อนที่ทะลุโครงสร้างสำคัญของราคาเดิมในตลาด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์ใช้เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างราคาในตลาด (Market Structure) แล้ว BOS มีวิธีการดูยังไง รวมถึงมีวิธีวิเคราะห์เชิงเทคนิคอย่างไร ? ติดตามกันได้ในบทความนี้ครับ
——————–🐣——————–
BOS Forex (Break of Structure) คืออะไร ?

BOS Forex หรือ Break of Structure คือ การที่ราคาเคลื่อนที่ทะลุผ่านโครงสร้างราคาเดิม และเป็นการยืนยันว่าราคายังคงสามารถเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางเดิมได้ (Trend Continuation) โดย BOS มักจะเกิดเมื่อราคาทะลุจุดสูงสุดเดิมในแนวโน้มขาขึ้น และทะลุจุดต่ำสุดเดิมในแนวโน้มขาลงครับ
โครงสร้างตลาด (Market Structure) คืออะไร ?
โครงสร้างตลาด (Market Structure) คือ รูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาบนกราฟ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้ซื้อและผู้ขายในตลาด ณ ขณะนั้น
โดยการทำความเข้าใจ Market Structure มีความสำคัญกับเทคนิคการใช้งาน BOS เป็นอย่างมาก เนื่องจาก BOS จะบ่งบอกการเคลื่อนที่ของราคาที่สามารถทะลุผ่านจุดสำคัญของโครงสร้างตลาด ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถยืนยันแนวโน้มทิศทางราคาที่แข็งแกร่งได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้นครับ
BOS Forex เกี่ยวข้องอย่างไรกับ SMC (Smart Money Concept)
BOS (Break of Structure) เป็นหนึ่งในแนวคิดและหัวใจสำคัญในการวิเคราะห์ด้วยเทคนิค SMC เนื่องจาก SMC จะเจาะลึกไปที่การวิเคราะห์โครงสร้างราคาในตลาดจากพฤติกรรมการซื้อขายของเทรดเดอร์รายใหญ่ โดยการเกิด BOS บนกราฟ อาจบ่งบอกถึงการยืนยันสัญญาณของแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ซึ่งเกิดจากแรงซื้อหรือแรงขายของกลุ่มเทรดเดอร์รายใหญ่ครับ
🐔 คำแนะนำจากทีมงาน Gotradehere : เทคนิคการวิเคราะห์ BOS รวมถึงการวิเคราะห์โครงสร้างตลาด (Market Structure) ถือเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์กราฟ นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคการวิเคราะห์อื่น ๆ ที่สามารถใช้งานร่วมกับ BOS ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราได้รวบรวมและสรุปเป็นเนื้อหาสำคัญให้คุณศึกษาเพิ่มเติมในบทความด้านล่างนี้ครับ
BOS (Break of Structure) เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ?
BOS (Break of Structure) สามารถเกิดขึ้นได้ 2 กรณี ดังนี้
การเกิด Break of Structure ในแนวโน้มขาขึ้น

BOS ในแนวโน้มขาขึ้นจะเกิดเมื่อราคาเคลื่อนที่ทะลุจุดสูงสุดเดิม ตัวอย่างเช่น
- หากตลาดทำ Higher High ที่ 100 → ราคาปรับฐานลงมาทำ Higher Low ที่ 80 → แล้วเคลื่อนตัวขึ้นทะลุที่ 110 (เกิด Higher High ใหม่)
ถือเป็นสัญญาณการเกิด BOS ที่ยืนยันว่าแนวโน้มขาขึ้นยังแข็งแกร่งอยู่ครับ
การเกิด Break of Structure ในแนวโน้มขาลง

BOS ในแนวโน้มขาลงจะเกิดเมื่อราคาเคลื่อนที่ทะลุจุดต่ำสุดเดิม ตัวอย่างเช่น
- หากตลาดทำ Lower Low ที่ 50 → ราคาปรับฐานลงมาทำ Lower High ที่ 60 → แล้วเคลื่อนตัวหลุดลงที่ 35 (เกิด Lower Low ใหม่)
ถือเป็นสัญญาณการเกิด BOS ที่ยืนยันว่าแนวโน้มขาลงยังแข็งแกร่งอยู่ครับ
ความแตกต่างระหว่าง BOS และ CHoCH
CHoCH (Change of Character) คืออะไร ?
CHoCH หรือ Change of Character คือ สัญญาณที่บ่งบอกว่าแนวโน้มของตลาดกำลังจะเปลี่ยนไป โดยมีจุดสังเกตหลัก คือ ราคามีการเคลื่อนที่ทะลุโครงสร้างสำคัญในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับแนวโน้ม ณ ปัจจุบัน หรือถ้าพูดให้เห็นภาพ คือ
- หากปัจจุบันราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) แต่ราคาเคลื่อนที่หลุดลงไปต่ำกว่า Higher Low ก่อนหน้า
- หรือ หากว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) แต่ราคาเคลื่อนที่ทะลุขึ้นไปสูงกว่า Lower High ก่อนหน้า
ซึ่งอาจตีความเหตุการณ์ดังกล่าวได้ว่า ตลาดอาจกำลังเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม เนื่องจากเทรดเดอร์กำลังสูญเสียความได้เปรียบในทิศทางใดทิศทางหนึ่งครับ
ตารางเปรียบเทียบ BOS vs CHoCH
| จุดแตกต่าง | BOS | CHoCH |
| ความหมาย | แนวโน้มเดิมยังคงแข็งแกร่ง | แนวโน้มเดิมเริ่มอ่อนกำลังลง |
| ช่วงการเกิด | เกิด Higher High ใหม่ ในแนวโน้มขาขึ้น หรือเกิด Lower Low ใหม่ในแนวโน้มขาลง | ราคาหลุด Higher Low ในแนวโน้มขาขึ้น หรือราคาทะลุ Lower High ในแนวโน้มขาลง |
| รูปแบบการให้สัญญาณ | ยืนยันการไปต่อแนวโน้มเดิม | ยืนยันการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม |
| จุดเข้าเทรด | วางแผนเทรดตามเทรนด์ (Trend-follow) | วางแผนเทรดกลับตัว (Trend Reversal) |
ดังนั้น ความแตกต่างระหว่าง BOS และ CHocH คือ การให้สัญญาณกับเทรดเดอร์ โดย BOS จะใช้เพื่อยืนยันการไปต่อในแนวโน้มเดิม (Trend Continuation) ส่วน CHoCH จะใช้เพื่อยืนยันการกลับตัวของราคาในทิศทางตรงกันข้าม (Trend Reversal) แต่ทั้งสอง ถือเป็นหัวใจสำคัญในการวิเคราะห์สไตล์ SMC ครับ
วิธีการดูและอ่านค่า BOS ในการเทรด Forex
สำหรับการอ่านค่าและดู BOS บนกราฟสำหรับการเทรด Forex เราสามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีตามแนวโน้มตลาด ดังนี้
กรณีโครงสร้างตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)
| 1. ระบุโครงสร้างตลาดปัจจุบัน (Market Structure) ว่าตลาดเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือไม่ |
| 2. ระบุจุดที่เกิด Swing High บนกราฟ โดยแนะนำให้ใช้ Time Frame ใหญ่จะสังเกตง่ายกว่า |
| 3. ลากเส้นแนวนอนจากจุด Swing High ไปทางขวา |
| 4. มองหาจุดที่ราคา ทะลุ Higher High (HH) เดิม และราคาปิดของแท่งเทียนอยู่สูงกว่าระดับ Swing High เดิม โดยสังเกตจากตัวแท่งเทียนเป็นหลัก ไม่ใช่แค่ปลายไส้เทียนเท่านั้น เพราะอาจเกิดสัญญาณหลอกได้ |
| 5. จากนั้น วางแผนเพื่อเข้าเทรดตามแนวโน้มเดิม (Trend Continuation) |
กรณีโครงสร้างตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend)
| 1. ระบุโครงสร้างตลาดปัจจุบัน (Market Structure) ว่าตลาดเป็นแนวโน้มขาลงหรือไม่ |
| 2. ระบุจุดที่เกิด Swing Low บนกราฟ โดยแนะนำให้ใช้ Time Frame ใหญ่จะสังเกตง่ายกว่า |
| 3. ลากเส้นแนวนอนจากจุด Swing Low ไปทางขวา |
| 4. มองหาจุดที่ราคา ทะลุ Lower Low (LL) เดิม และราคาปิดของแท่งเทียนอยู่ต่ำกว่าระดับ Swing Low เดิม โดยสังเกตจากตัวแท่งเทียนเป็นหลัก ไม่ใช่แค่ปลายไส้เทียนเท่านั้น เพราะอาจเกิดสัญญาณหลอกได้ |
| 5. จากนั้น วางแผนเพื่อเข้าเทรดตามแนวโน้มเดิม (Trend Continuation) |
เทคนิคการตรวจสอบ False Breakout และยืนยันสัญญาณ BOS
| 1. ตรวจสอบ Volume ให้ชัดเจน เนื่องจาก ปริมาณการซื้อขายสามารถบ่งบอกได้ว่า กลุ่ม SMC เข้าซื้อ/ขาย จริงหรือไม่ ซึ่งช่วยยืนยันการเกิด BOS ได้ |
| 2. หากมีเพียงไส้เทียนที่ทะลุ HH แต่ตัวแท่งเทียนไม่ปิดทะลุ มีโอกาสสูงที่จะเกิด False Breakout หรือท่องจำง่าย ๆ ว่า “ไม่มี Close ไม่มี Breakout” |
| 3. นับจำนวนแท่งเทียนที่ปิดทะลุ (Multiple Candle Confirmation) หากมีแท่งเทียนจำนวนเกิน 2-3 แท่งขึ้นไปที่ปิดทะลุระดับราคาสำคัญ ถือว่าเป็นสัญญาณ BOS ที่แข็งแกร่งครับ แนะนำให้เทรดเดอร์รอให้เกิด BOS อย่างน้อย 2-3 แท่งก่อนจึงค่อยวางแผนการเทรดต่อครับ |
| 4. แนะนำให้ใช้ Time Frame ขนาดใหญ่สำหรับการวิเคราะห์ เช่น H4 หรือ D1 จะมีความน่าเชื่อถือและลดโอกาสเกิดสัญญาหลอกได้ดีกว่าแบบ M1 – M5 ครับ |
เทคนิคการใช้ BOS Forex คู่กับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ
สำหรับเทคนิคการใช้งาน BOS ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น แม้ว่า Break of Structure จะเป็นสัญญาณที่มีโครงสร้างและรูปแบบที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ก็มีโอกาสเกิด False Breakout หรือสัญญาณหลอกได้ในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนหรือช่วงประกาศข่าวสำคัญ ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ ที่สามารถใช้งานควบคู่ไปกับ BOS ได้ดี เพื่อให้คุณสามารถศึกษาและนำไปประยุกต์ใช้ ดังนี้ครับ
การใช้งาน BOS ร่วมกับ Order Block (OB)
Order Block คือ โซนราคาสำคัญที่กลุ่มเทรดเดอร์รายใหญ่หรือกลุ่ม Smart Money เปิดคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่ไว้ ซึ่งเทรดเดอร์เชื่อกันว่า เมื่อราคากลับมาทดสอบโซน Order Block มักจะเกิดการกลับตัวและเคลื่อนที่ต่อเนื่องไปในแนวโน้มหลัก ซึ่งเทรดเดอร์จะใช้โซนนี้เป็นจุดเข้า-ออกออเดอร์ครับ
ซึ่ง BOS จะเข้ามาช่วยเทรดเดอร์ในการยืนยันสัญญาณ Order Block อีกทั้งยังช่วยบ่งบอกระดับความแข็งแกร่งของแนวโน้มปัจจุบันว่ามีโอกาสเคลื่อนที่ต่อเนื่องได้มากน้อยแค่ไหนนั่นเองครับ
คำแนะนำจากทีมงาน Gotradehere : สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการศึกษาเทคนิคการใช้งาน Order Block (OB) แบบละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ : Order Block คืออะไร ?

| 1. มองหาจุดที่กราฟเกิดการสะสมออเดอร์จำนวนมาก จากรูป จะเห็นว่า มีจุดที่เกิด Order Block รูปแบบ Bullish ซึ่งบ่งบอกว่าในอนาคตราคามีโอกาสกลับตัวจากแนวโน้มขาลงเป็นแนวโน้มขาขึ้น |
| 2. รอให้ราคากลับมาทดสอบโซน OB เพื่อยืนยันสัญญาณการกลับตัวไปในทิศทางขาขึ้น |
| 3. จากนั้น รอให้เกิดสัญญาณ BOS ที่ราคาทะลุ Higher High เดิม เพื่อยืนยันการไปต่อในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง |
| 4. แนะนำให้เทรดเดอร์ เปิดออเดอร์ Buy จะได้เปรียบกว่า และตั้ง Stop Loss ไว้ใต้โซน Order Block เพื่อป้องกันความเสี่ยงครับ |
| 5. นอกจากนี้ จะเห็นว่ากราฟราคาสามารถเกิด BOS ได้มากกว่า 1 ครั้ง ถือเป็นการยืนยันสัญญาณ BOS ได้เป็นอย่างดีครับ |
——————–🐣——————–
การใช้งาน BOS ร่วมกับ Fair Value Gap (FVG)
Fair Value Gap คือ ช่องว่างของราคาที่เกิดจากความไม่สมดุลระหว่างแรงซื้อและแรงขาย ส่งผลให้ราคาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นช่องว่างขึ้น (Price Imbalance) ซึ่งเทรดเดอร์เชื่อกันว่า ราคาจะกลับมาเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว ก่อนจะเคลื่อนที่ไปต่อในทิศทางเดิม
ซึ่งเทรดเดอร์จะใช้ FVG ในการระบุจุดเข้าออกออเดอร์เช่นเดียวกันกับ OB และใช้ BOS เข้ามาช่วยยืนยันสัญญาณความแข็งแกร่งของแนวโน้มครับ
คำแนะนำจากทีมงาน Gotradehere : สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการศึกษาเทคนิคการใช้งาน Fair Value Gap (FVG) แบบละเอียดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ : Fair Value Gap คืออะไร ?

| 1. มองหาจุดที่เกิดช่องว่างของราคา โดยสังเกตจากแท่งเทียนจำนวน 3 แท่ง ที่มีลักษณะเด่นคือ แท่งที่ 2 จะมีลักษณะที่ยาวกว่าแท่งที่ 1 และแท่งที่ 3 อย่างเห็นได้ชัด เป็นแท่งที่เกิดความไม่สมดุลของราคา (Imbalance) ซึ่งเป็นส่วนหลักของ FVG |
| 2. จากรูปจะเห็นว่า มีจุดที่เกิดช่องว่างของราคา FVG ในรูปแบบของ Bullish ซึ่งบ่งบอกว่าในอนาคตราคามีโอกาสกลับตัวไปในแนวโน้มขาขึ้น |
| 3. นอกจากนี้ ราคายังเกิดการ Break of Structure บริเวณใกล้เคียงกับ Bullish FVG ซึ่งช่วยยืนยันได้ว่าตลาดมีแรงซื้อจำนวนมาก มีโอกาสสูงที่ราคาจะไปต่อในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง |
| 4. แนะนำให้เทรดเดอร์รอให้ระดับราคากลับมาเติมเต็มช่องว่าง FVG ก่อน แล้วจึงวางแผนในการเปิดออเดอร์ Buy จะได้เปรียบกว่า จากนั้นให้วาง SL ใต้โซน FVG เพื่อป้องกันความเสี่ยงครับ |
| 5. นอกจากนี้ จะเห็นว่ากราฟราคาสามารถเกิด BOS ได้มากกว่า 1 ครั้ง ถือเป็นการยืนยันสัญญาณ BOS ได้เป็นอย่างดีครับ |
——————–🐣——————–
ข้อควรระวังในการใช้ BOS ในการเทรด Forex
BOS (Break of Structure) ไม่ใช่เครื่องมือหลักสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจโครงสร้างตลาด (Market Structure) และใช้ยืนยันแนวโน้มของทิศทางราคาควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ โดย BOS มีข้อจำกัดที่สำคัญและควรระวัง ดังนี้
| BOS (Break of Structure) สามารถเกิดสัญญาณหลอกได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงตลาด Sideway หรือในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง |
| BOS เหมาะกับการใช้งานใน Time Frame ขนาดใหญ่ หากใช้งาน Time Frame เล็ก เช่น M1, M5 หรือ M15 มีโอกาสสูงที่จะเกิด Fake Breakout |
| เทรดเดอร์ไม่ควรเข้าออเดอร์ทันทีเมื่อเห็นสัญญาณ BOS ควรรอให้ระดับราคาย่อตัวลงมาเล็กน้อยก่อน หรือรอการยืนยันสัญญาณจากเทคนิคอื่น ๆ เช่น แนวรับ-แนวต้าน, Order Block หรือ FVG เป็นต้น |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BOS Forex
BOS ในกราฟคืออะไร ?
BOS ในกราฟ คือ บริเวณที่ราคาเคลื่อนที่ทะลุจุดโครงสร้างสำคัญบนกราฟ ซึ่งบ่งบอกว่า ราคากำลังเคลื่อนที่ไปต่อในแนวโน้มเดิมอย่างแข็งแกร่ง
FIBO forex คืออะไร ?
FIBO forex หรือ Fibonacci Retracement คือ อินดิเคเตอร์ประเภทหนึ่ง ที่นำเอาสัดส่วนตัวเลข Fibonacci เข้ามาเพื่อหาจุดกลับตัวหรือใช้เป็นแนวรับแนวต้านบนกราฟราคา
CHoCH และ BOS ต่างกันอย่างไร ?
CHoCH หรือ Change of Character ใช้เป็นสัญญาณเพื่อบ่งบอกว่า ตลาดกำลังมีแนวโน้มที่จะกลับตัวไปในอีกทิศทางหนึ่ง ส่วน BOS หรือ Break of Structure ใช้เป็นสัญญาณทางเทคนิคสำหรับยืนยันการไปต่อในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
สรุป BOS Forex (Break of Structure) คืออะไร
BOS หรือ Break of Structure คือ สัญญาณยืนยันการเคลื่อนที่ไปต่อของแนวโน้มราคาที่แข็งแกร่ง (Trend Continuation) โดยมักจะเกิดขึ้นเมื่อราคามีการเคลื่อนที่ทะลุโครงสร้างสำคัญของราคา ซึ่ง BOS ถือเป็นหนึ่งในเทคนิคการวิเคราะห์ตาม Smart Money Concept ครับ
BOS ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยซัพพอร์ตการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเทรดเดอร์จะใช้ BOS เข้ามายืนยันการไปต่อในแนวโน้มหลัก ผนวกกับยืนยันสัญญาณการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมืออื่น ๆ เช่น Order Block, Fair Value Gap หรือ Liquidity Grab ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการวิเคราะห์กราฟราคาของตัวเทรดเดอร์ได้เป็นอย่างดีครับ









