เงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเคยแข็งค่าถึง 3.4% นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน ได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล ในตะกร้าเงินเมื่อวานนี้ (29 มี.ค 56) เนื่องจากนักลงทุนทยอยขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ยูโร หลังจากมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน
นายเมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศตุรกี กล่าวว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครนในรูปแบบการประชุมแบบพบหน้ากันที่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันอังคาร (29 มีนาคม 65) มีความคืบหน้ามากที่สุดนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มการเจรจากันมา พร้อมกับยังกล่าวอีกว่า ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน จะหารือกันเกี่ยวกับประเด็นที่มีความซับซ้อนมากขึ้นในโอกาสต่อไป
ซึ่งการประชุมดังกล่าวอาจจะสร้างจุดเปลี่ยนที่นำพาไปสู่การหยุดยิงในสงครามรัสเซีย-ยูเครน จึงส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ อีก 6 สกุล ลดลง 0.69% แตะที่ 98.4060 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น
ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 122.92 เยน จากระดับ 123.60 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9311 ฟรังก์ จากระดับ 0.9351 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2494 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2527 ดอลลาร์แคนาดา และยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1095 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0993 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3094 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3098 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7512 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7501 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ สำนักข่าวของรัสเซียยังได้ระบุอีกว่า รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหารรอบกรุงเคียฟซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความไว้วางใจระหว่างรัสเซียกับยูเครน และเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไปของทั้งสองฝ่าย
โดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็ได้มีการเปิดเผยผ่าน Conference Board โดยระบุว่า ถึงแม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นจะอ่อนค่าลงแต่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ นั้นได้ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 107.2 ในเดือนมีนาคม ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 107.5 จากระดับ 105.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการชะลอตัวของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ
ขณะที่นักลงทุนต่างก็กำลังจับตามองอัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมีนาคมของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวดาวโจนส์ก็ได้คาดการณ์ว่า ในเดือนมีนาคม ปี 2565 อัตราการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 460,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าในเดือนกุมภาพันธ์ที่เคยพุ่งขึ้นถึง 678,000 ตำแหน่ง และคาดว่า อัตราว่างงานในเดือนมีนาคมจะลดลงสู่ระดับ 3.7%
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าประธานาธิบดี ปูติน จะไม่ได้แสดงท่าทีพร้อมประนีประนอมเพื่อยุติสงคราม แต่การเจรจาในครั้งนี้ยังคงถือเป็นก้าวสำคัญที่สามารถนำไปสู่การหยุดยิงที่ยูเครนได้ สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างรัสเซียกับยูเครนนั้นยังคงมีความตรึงเครียด และอาจส่งผลกระทบให้สกุลเงินต่าง ๆ มีความผันผวนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นักลงทุนควรจะติดตามข่าวสารและสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมรับมือกับความผันผวนของค่าเงินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ