กระทรวงการคลังแจงเกี่ยวกับเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะทำการแจกผ่านแอป “เป๋าตัง” โดยจะใช้รูปแบบเดียวกับโครงการคนละครึ่ง โดยจะะไม่ใช้เทคโนโลยี Blockchain แล้ว และงบ 5 แสนกว่าล้านที่จะใช้ จะมาจากการยืมจากรัฐวิสาหกิจ และจ่ายคืนในภายหลัง
มีรายงานข่าวว่า หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา โดยรัฐบาลมีกำหนดแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 11-12 กันยายน 2566 ที่จะถึงนี้
จากที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเดินหน้านโยบายทำทันที ส่งผลให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเตรียมพร้อมและศึกษาข้อมูล เพื่อรองรับกับนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลใหม่ และนโยบายเศรษฐกิจหลักของรัฐบาล คือ การเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายของประชาชน ซึ่งมีการดำเนินนโยบายต่าง ๆ เป็นไปตามแผน สำหรับภารกิจหลักของกระทรวงการคลังขณะนี้ก็คือ โครงการแจกเงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาท และโครงการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี
โดยการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้แก่ประชาชนในงวดเดียวก็เพื่อให้เกิดแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ มีการกำหนดให้ใช้จ่ายภายใน 6 เดือน ในรูปแบบ e-Money โดยผู้ประกอบการที่เป็นผู้รับเงินในทอดแรก ๆ จะไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ แต่ต้องนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้า-วัตถุดิบ เพื่อมาค้าขายต่อ โดยเป้าหมายของโครงการนี้ก็เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม มีการอธิบายเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวว่า ต้องใช้มาตรการกึ่งการคลังในช่วงที่งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ยังไม่บังคับใช้ โดยยืมเงินรัฐวิสาหกิจที่คาดว่าน่าจะเป็นเงินจากธนาคารของรัฐมาใช้ก่อน โดยรัฐบาลจะตั้งงบฯชดเชยคืนให้ในภายหลัง ซึ่งจะมีกรอบวงเงินที่ใช้ได้ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดว่า ยอดคงค้าง หรือภาระที่รัฐต้องรับชดเชยค่าใช้จ่าย หรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการ ต้องไม่เกิน 32% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี
Source : Prachachat