Cardano หรือตัวย่อ ADA คือ แพลตฟอร์ม blockchain ที่สามารถสร้าง smart contract ได้เช่นเดียวกัน Ethereum (ETH) โดยใช้วิธีการแบบ Proof of Stake (POS) ในการตรวจสอบและยืนยันแต่ละธุรกรรม ซึ่งต่างจาก ETH ที่ใช้ POW ในการตรวจสอบธุรกรรม โดย Cardano ถูกสร้างโดยนาย Charles Hoskinson ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum
Cardano นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็น blockchain รุ่นที่ 3 คือมีความสามารถในการสเกลระบบหรือความยืนหยุ่นสูง มีองค์กรสามแห่งที่ทำงานเต็มเวลาเพื่อพัฒนาและดูแล Cardano ซึ่งได้แก่
Cardano Foundation เป็นหน่วยงานที่ได้รับการกำกับดูแลที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลตัวเองของ Cardano หน้าที่หลักคือการ “กำหนดมาตรฐานปกป้องและส่งเสริมเทคโนโลยี Cardano Protocol”
ทำไมหลายคนจึงพูดกันว่า ADA จะมาฆ่า ETH
เนื่องจาก จุดมุ่งหมายของการสร้างเหรียญ มีจุดมุ่งหมายใกล้เคียงกัน คือการเป็นคอมพิวเตอร์โลก แต่ด้วยพื้นฐานของเหรียญ ADA ซึ่งมีพื้นฐานที่ดีกว่า เนื่องจากทางนาย Charles Hoskinson ที่เคยร่วมงานกับ ETH ได้พบจุดอ่อนในหลายๆจุด จึงได้นำจุดอ่อนดังกล่าวมาสร้างเป็นจุดแข็งของเหรียญ ADA จึงเป็นที่มาของคำว่า “ETH Killer” นั่นเอง
ซึ่งปัจจุบันการเติบโตของเหรียญ ADA ก็ถือว่ามาไกลมากๆเทียบกับการพัฒนา เนื่องจาก ADA ยังสร้างมาได้ไม่นาน และมี Dapp ในเชน ก็มีแค่ไม่กี่แอพแต่ก็สามารถขึ้นมาเป็นเหรียญอันดับ 5 ได้ ในขณะที่ ETH มี Dapp อยู่ในระบบจำนวนมหาศาล ปัจจุบันอยู่ในอันดับ 2 (ข้อมูลจาก coinmarketcap) อีกทั้งยังถือเป็นเหรียญขวัญใจชาวไทยอีกด้วย
ต้องรอดูกันต่อไปวัน ADA จะสามารถล้ม ETH ได้จริงหรือไม่?
กระแสการลงทุนในยุคนี้ถือว่ามาแรงมากๆ หากใครกำลังสนใจการลงทุน สิ่งที่ควรคำนึงถึงเลยคือ การเลือกโบรกเกอร์ ที่มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์นักลงทุน ยกตัวอย่างเช่น ต้องเป็นโบรกที่สามารถเทรดได้หลากหลายตลาด, มีการฝากเงินที่รวดเร็ว, ค่า Commission ต่ำ เป็นต้น