สิงคโปร์คุมเข้ม! เตรียมวางมาตรการเข้มงวดในการซื้อขายคริปโต

List of Contents
สิงคโปร์

ธนาคารกลางของประเทศสิงคโปร์ และเจ้าหน้าที่ควบคุมกำกับการเงิน ออกมาพิจารณาถึงการวางมาตรการในการลงทุนกับคริปโตเคอร์เรนซี่ให้เข้มงวดขึ้น

ซึ่งจะมีมาตรการในการลงทุนในคริปโต โดยจะให้ความสำคัญและรัดเข็มขัดให้กับนักลงทุนรายย่อยมากขึ้น สาเหตุจากการลงทุนในเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ในเวลานี้ ยังคงเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งทางด้านผู้อำนวยการจัดการของหน่วยงานควบคุมกำกับการเงินของประเทศสิงคโปร์หรือ MAS นาย Ravi Menon รวมทั้งธนาคารกลางของประเทศสิงคโปร์ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องของการควบคุมกำกับเหรียญคริปโตว่า “ตอนนี้ความเสี่ยงของคริปโตที่ทางหน่วยงานได้ให้ความสำคัญนั้น มี 5 อย่าง คือ การรับมือและป้องกันการฟอกเงิน, การให้เงินทุนสนับสนุนการก่อการร้าย, การบริหารจัดการเทคโนโลยี, ความเสี่ยงที่มีความเกี่ยวข้องกับไซเบอร์ รวมทั้งความปลอดภัยของนักลงทุน

สิงคโปร์

ซึ่งทางหน่วยงานจะให้ความสำคัญกับการควบคุมเหรียญ Stablecoins ให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น และจะพยายามควบคุมในเรื่องความเสี่ยงของเสถียรภาพทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ทางด้านหน่วยงานเห็นว่า การลงทุนในตลาดคริปโตยังไม่เหมาะนักในเวลานี้ โดยคริปโตยังคงเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในเรื่องของความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นซื้อขายกันในตลาด การเก็บสะสมและมูลค่าที่ยังคงไม่อาจตีตราและระบุมูลค่าได้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม มาตรการควบคุมกำกับเหรียญคริปโตนี้ ถือเป็นเรื่องที่มีความท้าทายต่อนักลงทุนรายย่อยอย่างมาก และปัจจุบันนี้ หลายประเทศยังไม่สามารถทำการควบคุมกำกับตลาดคริปโตได้อย่างเด็ดขาด

——————————————————————————————————————————————

Source: 

อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge

อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News

bitcoin
Bitcoin อาจขึ้นไปแตะ $45,000 จาก ‘ปัจจัย’ เหล่านี้ ?!

นักวิเคราะห์ JPMorgan ได้ออกมาเผยถึงปัจจัยที่จะดันให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้น โดยเผยว่าหาก BTC เริ่มทำราคาและโครงสร้างการลงทุนที่มีความคล้ายคลึงกันกับทองคำมากขึ้น อาจจะส่งผลให้ราคาของ Bitcoin

สหรัฐฯ
สหรัฐฯ เจรจา “เพิ่มเพดานหนี้” สำเร็จ! รอดภาวะถังแตกแบบฉิวเฉียด

รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ที่อ้างอิงจากแหล่งข่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เควิน แมคคาร์ธี ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการปรับเพิ่มเพดานหนี้1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ไปเมื่อวันที่ 27