Table of Contents
Table of Contents

Price Action คืออะไร ? เทคนิคการเทรดง่าย ๆ ด้วย “ตาเปล่า”

Price Action คืออะไร ? เทคนิคการเทรดง่าย ๆ ด้วย “ตาเปล่า”

รูปแบบแท่งเทียน Price Action เป็นตัวแทนของพฤติกรรมราคาที่ถูกส่งออกมาสู่สาธารณชนผ่านกราฟ ซึ่งนิยมใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มจากการดูกราฟด้วยตาเปล่า โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องมืออื่น ๆ ดังนั้น มันจึงเป็นหนึ่งในอาวุธลับที่จะช่วยให้คุณชนะความผันผวนของตลาดเพียงแค่ “เข้าใจ” “มองให้ออก” และ “จดจำให้ได้” 🚀

*หมายเหตุ : การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง และการใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะกับ Price Action ในรูปแบบต่าง ๆ (Price Action Indicator) จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ได้มากขึ้น

. . . . . . . . . . . . . . . .

รูปแบบแท่งเทียน Price Action คืออะไร?

แท่งเทียน Price Action คือ

Price Action หรือที่เทรดเดอร์บางกลุ่มเรียกกันว่า PA Forex คือ พฤติกรรมของราคาที่ถูกแสดงออกมาในรูปแบบของแท่งเทียน ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงทิศทางการเคลื่อนที่ของราคาในอนาคตได้ เนื่องจากเทรดเดอร์ส่วนใหญ่เชื่อกันว่า ราคามีรูปแบบและพฤติกรรมที่สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้ ไม่ใช่การเกิดขึ้นแบบสุ่ม ทำให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางไหนในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

Price Action จึงเป็นหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ที่เทรดเดอร์นิยมใช้มากที่สุด เพราะใช้ได้กับทุกตลาดและทุกไทม์เฟรม พร้อมช่วยเพิ่มทักษะการอ่านกราฟให้แม่นยำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ทำไม Price Action ใช้งานได้ดีในการเทรด Forex

รูปแบบแท่งเทียน Price Action สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสินทรัพย์การลงทุน แต่จะแสดงความสามารถ และมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อคุณนำมาใช้วิเคราะห์ในการเทรด Forex เนื่องจากตลาด Forex มีความผันผวนที่ค่อนข้างสูง ทำให้พฤติกรรมราคามีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลาดังนั้น การใช้งาน Price Action ร่วมกับเครื่องวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อการเทรด Forex จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์มากที่สุดครับ

Price Action ต่างจาก Chart Pattern ยังไง ?

ความแตกต่างPrice ActionChart Pattern
แนวคิดหลักการวิเคราะห์พฤติกรรมราคาผ่านแท่งเทียนการวิเคราะห์รูปแบบการเคลื่อนที่ของกราฟราคาที่เกิดขึ้นซ้ำ
สิ่งที่ใช้วิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนรูปแบบกราฟ
ความยืดหยุ่นในการใช้งานความยืดหยุ่นสูง ปรับใช้ได้ตามโครงสร้างตลาดต้องรอรูปแบบกราฟตาม Pattern
ความแม่นยำขึ้นอยู่กับ Markets Structureขึ้นอยู่กับความชัดเจนของ Pattern
การตีความไม่มีรูปแบบตายตัว ปรับใช้ได้ตามโครงสร้างตลาดมีรูปแบบและกฎค่อนข้างชัด

เทรดด้วย Price Action พฤติกรรมราคา ดีอย่างไร?

เทรดด้วย Price Action พฤติกรรมราคา ดีอย่างไร?

✅ สามารถปรับใช้งานได้กับหลากหลายกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็น Day Trade, Swing Trade หรือ Scalping

✅ ใช้งานได้ดีกับทุก Time Frame แต่จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดหากใช้ใน Time Frame ในช่วงระยะสั้น (M15-H1) ไปจนถึงระยะกลาง (H4-D1)

✅ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับเทคนิคหรือเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี

✅ ช่วยระบุสัญญาณการกลับตัวของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนการเทรดเดอร์ดียิ่งขึ้น ช่วยให้คุณวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำเพราะอาศัยการดูข้อมูลจริงจากพฤติกรรมของราคาที่แสดงออกมา

หมายเหตุ: การใช้ Indicator ร่วมกับ Price Action จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร และ Win Rate ที่สูงขึ้น ซึ่งการใช้ Price Action เพียงอย่างเดียวในการวิเคราะห์ จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ค่อนข้างสูง

ส่วนประกอบรูปแบบแท่งเทียน Price Action

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Price Action คือ ตัวแทนของพฤติกรรมราคาที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของแท่งเทียน ดังนั้น ก่อนที่คุณจะสามารถเข้าใจ Price Action ได้อย่างละเอียด ต้องทำความรู้จักกับส่วนประกอบของรูปแบบแท่งเทียนก่อน ซึ่งส่วนประกอบของแท่งเทียนก็คือ ส่วนประกอบของ Price Action เช่นกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

Price Action

ส่วนประกอบ Price Action

ความหมาย

High

จุดที่ราคาเคยขึ้นไป “สูงสุด”

Low

จุดที่ราคาเคยลงไป “ต่ำสุด”

Open

จุดที่มีการซื้อขายครั้งแรกของแท่งเทียน ณ Timeframe นั้น ๆ

Close

จุดที่ปิดการซื้อขายของแท่งเทียน ณ Timeframe นั้น ๆ

Candle Body

ลำตัวของแท่งเทียน ซึ่งเป็นระยะห่างของราคาเปิด (Open) และราคาปิด (Close)

Candle Wick

ไส้เทียนซึ่งเป็นส่วนที่ราคาเคยทำราคาสูงสุด (High) และต่ำสุด (Low) ไว้

*หมายเหตุ: สีของแท่งเทียน Price Action ที่แตกต่างกันจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่ ตลาดขาขึ้น (Bullish Candle Stick) จะถูกแสดงออกมาเป็น “สีเขียว” ในทางตรงกันข้าม ตลาดขาลง (Bearish Candle Stick) จะถูกแสดงออกมาเป็น “สีแดง”

5 รูปแบบแท่งเทียน Price Action ที่สำคัญ

รูปแบบแท่งเทียน Price Action (PA Forex) ที่สำคัญ ประกอบไปด้วย 5 รูปแบบ โดยเราจะอธิบายอย่างละเอียดในหัวข้อนี้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการดู Price Action เริ่มต้น และสามารถนำไปต่อยอดในการวิเคราะห์รูปแบบ Price Action ที่ยากขึ้นแต่มีโอกาสกลับตัวสูงมากกว่าเช่นกัน

  • Up Bar
  • Down Bar
  • Inside Bar
  • Outside Bar
  • Pin Bar

🐔 คำแนะนำจากทีมงาน Gotradehere : สัญญาณจากแท่งเทียน Price Action มักมีอายุสั้น จึงต้องตั้ง TP และ SL อย่างเหมาะสม และควรระวังเมื่อเห็นสัญญาณที่ขัดกับเทรนด์หลัก เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเทรนด์กำลังจะกลับตัวในอนาคตครับ

Price Action รูปแบบ Up Bar

Up Bar คืออะไร ?

Up Bar คือ รูปแบบแท่งเทียนที่เกิดเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) หรือบ่งบอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้นในระยะสั้น ๆ จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “Bullish Bar” ซึ่งบาร์สามารถเป็นได้ทั้งสีเขียวและสีแดง แต่โดยส่วนใหญ่จะสะท้อนออกมาเป็นสีเขียวมากกว่า

Up Bar สีเขียว คือUp Bar สีแดง คือ
กรณี Up Bar เป็นสีเขียว
▪️ทำ High สูงกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low สูงกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ราคาเปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า

สามารถตีความได้ว่า แรงซื้อยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่ตลาดจะไปต่อในทิศทางขาขึ้น
กรณี Up Bar เป็นสีแดง
▪️ทำ High สูงกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low สูงกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ราคาปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า

สามารถตีความได้ว่า แรงซื้อเริ่มอ่อนกำลังลง โดยมีแรงขายเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น อาจบ่งบอกว่าราคาอาจกลับตัวในอนาคต

ตัวอย่างการเทรด Forex ด้วย Price Action แบบ Up Bar

ตัวอย่างการเทรดด้วย Up Bar

จากกราฟตัวอย่าง ราคาอยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิดสัญญาณกลับตัวจาก Price Action ในรูปแบบ Up Bar ทำให้ราคาเริ่มทำการปรับตัวเป็นขาขึ้นในระยะสั้น ๆ จากนั้นเกิด Price Action ขึ้นอีกครั้งในรูปแบบ Bearish Three Line Strike ซึ่งเป็นรูปแบบ Price Action ที่เกิดขึ้นได้บ่อยในช่วงแนวโน้มขาขึ้น และเป็นสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลงที่รุนแรง จึงทำให้ราคาเกิดการกลับตัวลงอีกครั้ง รวมถึงมี Lower Low ที่ต่ำกว่าเดิม

Price Action รูปแบบ Down Bar

Down Bar คืออะไร ?

Down Bar คือ รูปแบบแท่งเทียนที่อาจบ่งบอกว่า ราคามีโอกาสสูงที่จะกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลงในระยะสั้น ๆ จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า “Bearish Bar” ซึ่งบาร์สามารถเป็นได้ทั้งสีเขียวและสีแดง แต่โดยส่วนใหญ่จะสะท้อนออกมาเป็นสีแดงมากกว่า

Down Bar สีแดง คือDown Bar สีเขียว คือ
กรณี Down Bar เป็นสีแดง
▪️ทำ High ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ราคาเปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า

สามารถตีความได้ว่า แรงขายยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่ตลาดจะไปต่อในทิศทางขาลง
กรณี Down Bar เป็นสีเขียว
▪️ทำ High ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ราคาปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า

สามารถตีความได้ว่า แรงขายเริ่มอ่อนกำลังลง โดยมีแรงซื้อเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น อาจบ่งบอกว่าราคาอาจกลับตัวในอนาคต

ตัวอย่างการเทรด Forex ด้วย Price Action แบบ Down Bar

ตัวอย่างการเทรดด้วย Down Bar

จากกราฟตัวอย่าง ในช่วงสภาวะตลาดขาลงมักจะเกิด Price Action ในรูปแบบ Down Bar เป็นระยะและค่อนข้างต่อเนื่องกัน บ่งบอกว่ายังไม่มีโอกาสที่ราคาจะสามารถกลับตัวเป็นขาขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น การเปิดออเดอร์ Sell จึงค่อนข้างได้เปรียบจนกว่าจะเกิดสัญญาณอีกครั้งจาก Bullish Price Action แต่ต้องไม่ลืมวาง SL เพื่อป้องกันความเสี่ยงในส่วนนี้ด้วย

Price Action รูปแบบ Inside Bar

Inside Bar คืออะไร ?

Inside Bar คือ รูปแบบแท่งเทียนที่ราคาบีบตัวแคบลง แสดงถึงตลาดที่ยังเลือกไม่ได้ชัดเจนว่าจะไปต่อในทิศทางไหน เทรดเดอร์จึงใช้ Inside Bar เพื่อรอดู Breakout ว่าราคาจะทะลุไปทิศทางใด เมื่อเกิด Breakout แล้ว ราคามักจะเคลื่อนไหวต่อในทิศทางนั้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Bullish Inside Bar และ Bearish Inside Bar โดยมีรายละเอียดดังนี้

Bullish Inside Bar คือBearish Inside Bar คือ
Bullish Inside Bar คืออะไร?
Bullish Inside Bar คือ สัญญาณบ่งบอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาขึ้น (Uptrend) ในระยะสั้น ๆ ซึ่งสามารถพบได้ในช่วงแนวโน้มขาลง (Downtrend) โดยแท่งเทียนจะมีลักษณะ ดังนี้

▪️มีสีเขียว
▪️ทำ High ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
Bearish Inside Bar คืออะไร?
Bearish Inside Bar คือ สัญญาณบ่งบอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาลง (Downtrend) ซึ่งสามารถพบได้ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) โดยแท่งเทียนจะมีลักษณะ ดังนี้

▪️มีสีแดง
▪️ทำ High ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า

ตัวอย่างการเทรด Forex ด้วย Price Action แบบ Inside Bar

ตัวอย่างการเทรดด้วย Inside Bar

จากกราฟตัวอย่าง ราคากำลังเลือกทิศทางว่าจะไปทิศทางใดต่อ จนกระทั่งเกิด Price Action รูปแบบ Bullish Inside Bar ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ราคามีโอกาสสูงที่จะปรับตัวเป็นขาขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ประกอบกับการเกิด Up Bar ในบริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งเปรียบเสมือนการยืนยันสัญญาณการไปต่อในทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง จากนั้นจะเห็นได้ชัดว่า ราคามีการปรับตัวขึ้นสูงตามสัญญาณครับ 

Price Action รูปแบบ Outside Bar

Outside Bar คืออะไร ?

Outside Bar คือ รูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกว่าราคาได้เลือกทิศทางการไปต่อแล้ว มีลักษณะเป็นแท่งเทียนขนาดใหญ่ที่ครอบแท่งเทียนก่อนหน้า เป็นสัญญาณว่าแรงซื้อหรือแรงขายในตลาดกำลังเปลี่ยนแปลง โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ Bullish Outside Bar และ Bearish Outside Bar

Bullish Outside Bar คือBearish Outside Bar คือ
Bullish Outside Bar คืออะไร ?
Bullish Outside Bar คือ สัญญาณบ่งบอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาขึ้น (Uptrend) ซึ่งสามารถพบได้ในช่วงตลาดขาลง (Downtrend)

▪️มีสีเขียว
▪️ทำ High สูงกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ราคาปิดต้องสูงกว่าราคาเปิดของแท่งก่อนหน้า
Bearish Outside Bar คืออะไร ?
Bearish Outside Bar คือ สัญญาณบ่งบอกว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาลง (Downtrend) ซึ่งสามารถพบได้ในช่วงตลาดขาขึ้น (Uptrend)

▪️มีสีแดง
▪️ทำ High สูงกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ราคาเปิดต้องสูงกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า

ตัวอย่างการเทรด Forex ด้วย Price Action แบบ Outside Bar

ตัวอย่างการเทรดด้วย Outside Bar

จากกราฟตัวอย่าง ในตอนแรกราคามีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิด Price Action ในรูปแบบ Bearish Outside Bar ซึ่งเป็นสัญญาณว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาลง ประกอบกับการเกิด Down Bar ที่เข้ามาช่วยยืนยันสัญญาณแนวโน้มขาลงให้ชัดเจนขึ้น จากนั้นจะเห็นได้ชัดว่า ราคามีการปรับตัวลงตามสัญญาณ

Price Action รูปแบบ Pin Bar

Pin Bar คืออะไร ?

Pin Bar คือ รูปแบบแท่งเทียนที่แสดงถึงความขัดแย้งของราคา และความพยายามของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดที่ต้องการดันราคาขึ้นหรือกดราคาลง แต่ไม่สามารถทำสำเร็จ โดยจะลักษณะเป็นไส้เทียนที่ค่อนข้างยาวกว่ารูปแบบแท่งเทียนอื่น ๆ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ Bullish Pin Bar และ Bearish Pin Bar

Bullish Pin Bar คือBearish Pin Bar คือ
Bullish Pin Bar คืออะไร ?
Bullish Pin Bar มีสีอะไรก็ได้ แต่หากเป็นแท่งสีเขียวจะมีสัญญาณที่น่าเชื่อถือกว่า โดยสามารถสังเกตรูปแบบแท่งเทียนได้ ดังนี้

▪️มีไส้เทียนด้านบนยาวกว่าลำตัวประมาณ 2 เท่า
▪️มีไส้เทียนด้านล่างที่สั้นมากหรือแทบไม่มีเลย
▪️ทำ High ต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low สูงกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️มักจะเกิดใกล้กับราคาต่ำสุดของวัน
Bearish Pin Bar คืออะไร ?
Bearish Pin Bar มีสีอะไรก็ได้ แต่หากเป็นแท่งสีแดงจะมีสัญญาณที่น่าเชื่อถือกว่า โดยสามารถสังเกตรูปแบบแท่งเทียนได้ ดังนี้

▪️มีไส้เทียนด้านบนยาวกว่าลำตัวประมาณ 2 เท่า
▪️มีไส้เทียนด้านล่างที่สั้นมากหรือแทบไม่มีเลย
▪️ทำ High สูงกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️ทำ Low สูงกว่าแท่งก่อนหน้า
▪️มักจะเกิดใกล้กับราคาสูงสุดของวัน

ตัวอย่างการเทรด Forex ด้วย Price Action แบบ Pin Bar

ตัวอย่างการเทรดด้วย Pin Bar

จากกราฟตัวอย่าง ในตอนแรกราคามีการปรับตัวขึ้น และทำการย่อตัวลงระยะสั้น เพื่อรอให้พฤติกรรมราคาว่า ควรจะไปในทิศทางใดต่อ ซึ่งรูปแบบ Price Action ประเภท Morning Doji Star ที่เป็นสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้นได้ปรากฏขึ้น ประกอบกับ Bullish Pin Bar ที่เข้ามาช่วยยืนยันสัญญาณให้ชัดเจนขึ้น หลังจากนั้นจะเห็นว่า ราคามีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงและทำ Lower High ได้ในที่สุด

หากคุณอยาก ใช้งานเทคนิคPrice Action ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจำเป็นจะต้องเข้าใจเรื่องเหล่านี้ก่อนครับ โดยเทคนิคลับที่จะช่วยให้คุณเข้าใจธรรมชาติของ Price Action มีดังนี้

  • เข้าใจโครงสร้าง Markets Structure
  • แนวรับ–แนวต้าน แนวสำคัญอันทรงพลัง
  • รู้จักรูปแบบแท่งเทียนที่มีโอกาสกลับตัวสูง
  • ยืนยันสัญญาณและระบุ Trend ด้วย Indicator 

เข้าใจโครงสร้าง Markets Structure

Markets Structure คือ โครงสร้างตลาดที่ใช้บ่งบอกว่าตอนนี้ราคากำลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด โดยหลัก ๆ แล้ว การดู Markets Structure เพื่อใช้ควบคู่กับ Price Action เราจะสังเกตจุด Swing High / Swing Low และการทำ Higher High / Higher Low / Lower High / Lower Low ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุแนวโน้ม ณ ปัจจุบัน และคาดการณ์การไปต่อหรือกลับตัวควบคู่กับการวิเคราะห์ด้วย Price Action ครับ

การตีความ Market Structure เบื้องต้น

แนวโน้มตลาดการดู Markets Structureการรอสัญญาณ Price Action
แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)เกิด Higher High (HH) → จุดสูงสุดใหม่เกิด Higher Low (HL) → จุดต่ำสุดที่สูงกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้ามองหา Price Action ที่อาจเกิดการกลับตัวในอนาคต เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือวางแผนการเทรดต่อ
แนวโน้มขาลง (Downtrend)เกิด Lower High (LH) → จุดสูงสุดที่ต่ำกว่าจุดก่อนหน้าเกิด Lower Low (LL) → จุดต่ำสุดใหม่มองหา Price Action ที่อาจเกิดการกลับตัวในอนาคต เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือวางแผนการเทรดต่อ
แนวโน้ม Sidewayไม่มีการเกิด HH หรือ LL ตลาดเคลื่อนที่อยู่ในกรอบมองหา Price Action ที่สามารถบอกการเกิด Breakout 

แนวรับ–แนวต้าน แนวสำคัญอันทรงพลัง

จุดแข็งของ Price Action คือ การระบุความแข็งแกร่งของแรงซื้อและแรงขายผ่านรูปแบบของแท่งเทียนที่แสดงออกมาบนกราฟ ซึ่งเทรดเดอร์จะเห็นได้ชัดมากที่สุดหากเกิดขึ้นในพื้นที่สำคัญอย่าง โซนแนวรับแนวต้าน เนื่องจากเป็นบริเวณที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เปิดหรือปิดออเดอร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งตลาดจะตอบสนองแรงซื้อหรือแรงขายในโซนนี้เป็นพิเศษ และเกิดเป็นแท่งเทียน Price Action ที่ชัดเจนมากกว่าจุดอื่น ๆ ครับ 

แท่งเทียน Price Action 12 แบบที่เกิดบ่อย และโอกาสกลับตัวสูง

Price Action

Price Action 12 แบบ คือ รูปแบบแท่งเทียน Price Action ที่เกิดบ่อย และเป็น Price Action ที่มีโอกาสกลับตัวสูงที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วยแพตเทิร์นกราฟ 12 รูปแบบ ดังนี้

  1. Harami
  2. Star
  3. Doji Star
  4. Engulfing
  5. Three Outside
  6. Three Line Strike  
  7. Three Star
  8. Identical Three Crows
  9. Three White Soldier
  10. Three Black Crows
  11. Inverted Hammer
  12. Shooting Star

แนะนำ Price Action Indicator ที่ดีที่สุด 

เนื่องจากการเทรดด้วย Price Action เพียงอย่างเดียว จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เทรดค่อนข้างสูง สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่จึงแนะนำให้ใช้อินดิเคเตอร์เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและความแม่นยำ ซึ่งทำให้มั่นใจมากขึ้นว่า คุณจะไม่เทรดผิดทาง โดยอินดิเคเตอร์ที่น่าใช้ร่วมกับ Price Action มีอยู่ 5 ประเภท ดังนี้

  • Fibonacci Retracement
  • Moving Average
  • MACD
  • RSI
  • Bollinger Band

. . . . . . . . . . . . . . . .

Price Action มีกี่รูปแบบ ?

Price Action ประกอบไปด้วย 5 รูปแบบหลัก ดังนี้

  • Up Bar
  • Down Bar
  • Inside Bar
  • Outside Bar
  • Pin Bar

เทรด PA คืออะไร ? 

การเทรด PA หรือที่เรียกกันว่า การเทรดด้วย Price Action คือ การวิเคราะห์กราฟโดยอาศัยการวิเคราะห์จากพฤติกรรมราคาที่แสดงออกมาในรูปแบบของกราฟแท่งเทียน

การเทรดกราฟเปล่าคืออะไร ? 

การเทรดกราฟเปล่า (Naked Trading) คือ การเทรดโดยอาศัยการวิเคราะห์ด้วยกราฟราคาเพียงอย่างเดียวโดยไม่พึ่งเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ อย่างเช่น Indicator เป็นต้น โดยเทคนิคที่คนนิยมใช้เพื่อเทรดกราฟเปล่า ได้แก่ Price Action และ Chart Pattern

Price Action คือ การสะท้อนของพฤติกรรมราคาที่ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของแพตเทิร์นกราฟ โดยรูปแบบแต่ละประเภทสามารถบ่งบอกได้ถึงพฤติกรรมการซื้อหรือขาย และอารมณ์ของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาด โดย Price Action ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่เทรดเดอร์มืออาชีพใช้ในการเทรดกราฟเปล่า แต่การเทรดด้วย Price Action จำเป็นต้องอาศัยการจดจำรูปแบบแท่งเทียน, ความเชี่ยวชาญของเทรดเดอร์ รวมถึงประสบการณ์การเทรดในสภาวะตลาดต่าง ๆ ค่อนข้างมาก จึงอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

ซึ่งสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับการวิเคราะห์ Price Action ได้ดีที่สุด คือ อินดิเคเตอร์ (Indicator) เนื่องจากอินดิเคเตอร์เป็นเครื่องที่มีการใช้งานง่ายและค่อนข้างแม่นยำ ในทางกลับกัน การใช้อินดิเคเตอร์เพียงตัวเดียวอาจทำให้คุณต้องพบเจอกับสัญญาณหลอกมากมาย ดังนั้น การนำอินดิเคเตอร์เข้ามาใช้งานร่วมกับ Price Action จึงเป็นเหมือนส้อมกับช้อนที่อยู่คู่กันแล้วจะสร้างประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทล้วนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดหรือปัจจัยพื้นฐานในตลาดที่คุณสนใจก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างโอกาสที่คุณจะกลายเป็นผู้ชนะในตลาดให้ได้มากที่สุด


อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge

อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker

Table of Contents
TOP FOREX BROKERS
1
5/5

IUX

5/5
2
3/5
IC Markets
IC Markets-top-forex-brokers
IC Markets
4/5
3
4/5
FXGT.com
FXGT.com
4/5
4
3/5
Hantec Markets
Hantec Markets
3/5
5
4/5
Eightcap
Eightcap
3/5

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

– Advertisement –

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

FOLLOW US
บทความที่เกี่ยวข้อง

– Advertisement –