ในยุคปัจจุบันการลงทุนเป็นเรื่องที่หลายคนต้องการเข้ามาทดลองเพื่อเพิ่มกำลังทรัพย์หรือรายได้เสริมของตนเอง ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้การลงทุนต่าง ๆ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการ เทรด Forex และการ เทรดหุ้น แต่ใช่ว่าตลาดการเงินเหล่านี้จะเข้ามาทำกำไรกันได้ง่าย ๆ เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่, มีผู้เล่นจำนวนมาก, มีความผันผวนค่อนข้างสูง และยากต่อการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต ดังนั้น ความรู้ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การใช้อินดิเคเตอร์ รวมไปถึงการฝึกฝนการเทรดในสภาวะตลาดจริงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการ เทรด Forex และการ เทรดหุ้น มีเทคนิคและกลยุทธ์หลายอย่างที่เราต้องเรียนรู้หากต้องการเป็นผู้ชนะในตลาด หนึ่งในนั้นที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ คือ Price Pattern หรือ Chart Pattern ซึ่งเป็นรูปแบบของกราฟที่เรานำมาวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด
ในบทความนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับ Price Pattern คือ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Chart Pattern คือ พร้อมตัวอย่างที่คุณต้องพบบ่อยในการ เทรด Forex และการ เทรดหุ้น โดย Price Pattern และ Chart Pattern นั้นเป็นเทคนิคหรือกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์ทุกคนควรรู้และทำความเข้าใจ เนื่องจากในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดทางเทคนิค เราจำเป็นต้องวิเคราะห์จากกราฟในรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้น บทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจมันมากขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรของคุณ
🔻บทความที่เกี่ยวข้อง: 14 Chart Pattern กลับตัว มีกี่แบบ? พร้อมวิธีเทรด Forex
———————————— 🐣 ————————————
Price Pattern คืออะไร ?
Price Pattern คือ รูปแบบของกราฟที่แสดงการเคลื่อนที่ของราคาสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบัน จากนั้นจะเกิดการเรียงตัวกันไปเรื่อย ๆ หรือที่เราเรียกกันว่า แท่งเทียน โดยกราฟรูปแบบต่าง ๆ จะสามารถตีความหมายและให้สัญญาณที่แตกต่างกันออกไป เทรดเดอร์จึงจำเป็นต้องรู้จักรูปแบบกราฟเหล่านี้อย่างละเอียด เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดในแม่นยำมากขึ้น
ประเภทของ Price Pattern
Price Pattern หรือ Chart Pattern สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้ :
1. รูปแบบการไปต่อ (Continuation Patterns)
2. รูปแบบกลับตัว (Reversal Patterns)
3. รูปแบบทวิภาคี (Bilateral Patterns)
รูปแบบการไปต่อ (Continuation Patterns)
รูปแบบการไปต่อ (Continuation Patterns) คือ Price Pattern ที่ให้สัญญาณต่อเนื่องของแนวโน้มที่กำลังดำเนินอยู่ และบ่งบอกว่า กราฟราคาจะไปต่อในแนวโน้มเดิม ซึ่งอาจเป็นการไปต่ออย่างต่อเนื่อง หรือหยุดพักเพื่อไปต่อ
- หากเกิดที่ “แนวโน้มขาลง” = แนวโน้มจะไม่เปลี่ยนแปลง และไปต่อในแนวโน้มขาลง
- หากเกิดที่ “แนวโน้มขาขึ้น” = แนวโน้มจะไม่เปลี่ยนแปลง และไปต่อในแนวโน้มขาขึ้น
รูปแบบกลับตัว (Reversal Patterns)
รูปแบบกลับตัว (Reversal Patterns) คือ Price Pattern ที่ให้สัญญาณถึงแนวโน้มที่กำลังจะเปลี่ยนทิศทาง และบ่งบอกว่า กราฟราคาจะมีการกลับตัวในเร็ว ๆ นี้
- หากเกิดที่ “แนวรับ” = แนวโน้มอาจเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น
- หากเกิดที่ “แนวต้าน” = แนวโน้มอาจเปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลง
รูปแบบทวิภาคี (Bilateral Patterns)
รูปแบบทวิภาคี (Bilateral Patterns) คือ Price Pattern ที่ให้สัญญาณถึงแนวโน้มที่ราคาอาจไปในทิศทางใดทางหนึ่งก็ได้ บ่งบอกว่า กราฟราคาอาจเคลื่อนที่ตามเทรนด์ หรือสวนเทรนด์ในปัจจุบัน แบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
- Ascending Triangle (พบบ่อย)
- Descending Triangle (พบบ่อย)
- Symmetrical Triangle
สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Price Pattern
Neckline คือ อะไร ?
Neckline เป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแนวรับ-แนวต้าน และลักษณะของ Price Pattern โดยเส้นนี้จะบ่งบอกว่า เมื่อใดที่กราฟทะลุเส้น Neckline ซึ่งอาจมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนทิศทางทันที และไปต่อในทิศทางนั้น ๆ หรือทิศทางที่กราฟได้ทะลุไป ซึ่ง Neckline อาจเป็นแนวรับหรือแนวต้านก็ได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบกราฟ ณ ขณะนั้น
ตัวอย่าง Price Pattern ที่พบบ่อยในการเทรด Forex และหุ้น
Double Bottom
กราฟรูปแบบนี้บ่งบอกว่า กราฟจะกลับตัวจากขาลง (Downtrend) เป็น Sideways หรือขาขึ้น (Uptrend) ซึ่งสังเกตได้จากกราฟจะเป็นขาลงจนมาถึงจุด Bottom 1 หลังจากนั้นอาจมีแรงซื้อเข้ามาทำให้กราฟพุ่งขึ้นมาเล็กน้อย และกลับตัวไปที่จุด Bottom 2 เช่นเดิม เนื่องจากแรงซื้ออาจมีไม่มากพอที่จะทำให้กราฟทะลุเส้น Neckline หรือเปลี่ยนเป็นขาขึ้นได้ หลังจากนั้นกราฟอาจมีแนวโน้มที่จะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้กราฟพุ่งขึ้นอีกครั้ง (Entry) ซึ่งแรงซื้อครั้งนี้จะเป็นจุดวัดว่า กราฟจะ ฺBreak out เป็นขาขึ้น (Uptrend) หรือในรูปแบบ Sideways
Head and Shoulders
กราฟรูปแบบนี้เป็นกราฟที่ต้องระวังมากที่สุด บ่งบอกว่า แนวโน้มเทรนด์ในปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดลง และราคาอาจจะกลับตัวเร็ว ๆ นี้ โดยจะมีลักษณะเหมือนคนมีไหล่ 2 ข้าง เมื่อไหล่ขวาลงทะลุเส้น Neckline ลงมาเมื่อไร กราฟก็มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นขาลงได้ทันที
Ascending Triangle
กราฟรูปแบบนี้บ่งบอกว่า ราคาอาจเกิดการกลับตัวหรือไปต่อก็ได้ โดยลักษณะของกราฟจะเกิดจากเส้น Neckline และเส้น Upward trendline ที่บีบเข้าหากันเรื่อย ๆ ตามภาพ และราคาจะวิ่งอยู่ในกรอบเป็นสัญญาณว่า ราคากำลังเลือกทิศทางที่จะไปอยู่
- หากกราฟทะลุเส้น Neckline ขึ้นข้างบน = สัญญาณการกลับตัวมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นขาขึ้น
- หากกราฟทะลุเส้น Upward Trendline ลงข้างล่าง = สัญญาณการกลับตัวมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นขาลง
Descending Triangle
กราฟรูปแบบนี้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ Ascending Triangle แต่จะเกิดจากเส้น Neckline และเส้น Downward Trendline ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ต้องระวังให้ดีเช่นกัน โดยรูปแบบกราฟจะบ่งบอกว่า ราคาอาจเกิดการกลับตัวหรือไปต่อก็ได้
- หากกราฟทะลุเส้น Downward trendline ขึ้นไปข้างบน = สัญญาณการกลับตัวมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นขาขึ้น
- หากกราฟทะลุเส้น Neckline ลงไปข้างล่าง = สัญญาณการกลับตัวมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นขาลง
———————————— 🐣 ————————————
สรุป
ในบทความนี้เราได้อธิบายไปแล้วว่า Price Pattern หรือที่บางคนเรียกกันว่า Chart Pattern คืออะไร พร้อมยกตัวอย่างลักษณะที่พบบ่อยในการเทรด Forex และการเทรดหุ้น ซึ่งมันคือ รูปแบบของกราฟที่แสดงการเคลื่อนที่ของราคา โดยแต่ละรูปแบบจะสามารถบ่งบอกสัญญาณว่า แนวโน้มจะไปในทิศทางใดได้แตกต่างกัน ดังนั้น Price Pattern จึงเป็นอีกหนึ่งเทคนิคในการเทรดที่สำคัญ หากคุณรู้จักและคุ้นเคยกับรูปแบบต่าง ๆ คุณก็จะสามารถวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคตได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อีกด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News