Table of Contents
Table of Contents

Sell in May คือ อะไร? อย่าพึ่งเชื่อใน Sell in May and Go Away 2023 ถ้ายังไม่ได้อ่านสิ่งนี้

sell in may คือ

ในตลาดการเงินมีปรากฎการณ์มากมายเกิดขึ้น และถูกเรียกไปในชื่อต่าง ๆ ตามสถานการณ์นั้น ซึ่งในเดือนพฤษภาคมนี้ มีเหตุการณ์ที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเงินโดยเฉพาะตลาดหุ้น และเป็นคำพูดที่นักลงทุนในวงการต่างรู้จักกันดี เรียกว่า “Sell in May” นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งวลีที่ตามมา นั่นคือ “Sell in May and Go Away” หรือ การขายและหนีไป ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ในสมัยก่อนนิยมทำ แต่จะเรียกว่า กลยุทธ์คงไม่ถูกต้องสักเท่าไร เพราะมันเป็นเหมือนความเชื่อที่ถูกส่งต่อกันมากกว่า และจำเป็นต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างในการวิเคราะห์ ดังนั้น อย่าพึ่งเชื่อใน Sell in May and Go Away เพราะในโลกการลงทุนนั้นไม่มีอะไรแน่นอน และไม่มีกฎตายตัวสำหรับการทำกำไร

  • Sell in May คือ อะไร?
  • Sell in May เกิดขึ้นได้อย่างไร? : Sell in May and Go Away
  • Sell in May and Go Away 2023 จะเกิดขึ้นหรือไม่?
  • อย่าพึ่งเชื่อใน Sell in May and Go Away 2023 ถ้ายังไม่ได้อ่านสิ่งนี้!

——————————🐣——————————-

Sell in May คือ อะไร?

Sell in May คือ ปรากฏการณ์ที่มักเกิดในตลาดหุ้น โดยนักลงทุนต่างเชื่อว่า ในเดือนพฤษภาคมจะมีแรงเทขายอย่างรุนแรงในทุกปี ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีผลตอบแทนที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะนักลงทุนเชื่อกันว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 และ 3 จะไม่ดีเท่าไตรมาส 1 และเป็นช่วงที่ต้องประกาศคาดการณ์ผลการดำเนินงานในปีนั้น ๆ รวมไปถึงการจ่ายเงินปันผลอีกด้วย จึงทำให้เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมาก่อน และต่อมาจึงเกิดวลีติดหูว่า “Sell in May and Go Away” หมายความว่า ให้รีบเทขายหุ้นออกและหนีไป ก่อนที่ราคาหุ้นจะร่วงลงนั่นเอง

  • Sell in May คือ ปรากฏการณ์เทขายอย่างรุนแรงในเดือนพฤษภาคม ซึ่งมักจะเกิดกับตลาดหุ้น
  • Sell in May เกิดจากความเชื่อของนักลงทุนที่ว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 และ 3 จะไม่ดีเท่าไตรมาส 1, ในเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงที่ต้องประกาศคาดการณ์ผลการดำเนินงาน และเป็นช่วงที่ต้องจ่ายเงินปันผล

Sell in May เกิดขึ้นได้อย่างไร? : Sell in My and Go Away

“Sell in May and Go Away” มีต้นกำเนิในอังกฤษจากการแข่งม้า โดย St. Leger Stakes ก่อตั้งขึ้นในปี 1776 เป็นหนึ่งในการแข่งม้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษ โดยเป็นการแข่งขันรอบสุดท้ายของ British Triple Crown และดำเนินการที่ Doncaster Racecourse ใน South Yorkshire ในเดือนกันยายนของทุกปี ในบริบทดั้งเดิม Sell in May and Go Away แนะนำให้นักลงทุน ขุนนาง และนายธนาคารชาวอังกฤษขายหุ้นของตนในเดือนพฤษภาคม เพื่อพักผ่อนและเพลิดเพลินกับฤดูร้อนในขณะที่หนีจากความร้อนของลอนดอน และกลับไปที่ตลาดหุ้นในฤดูใบไม้ร่วงหลังจากการเดิมพัน St. Leger

Sell in May เริ่มมาจากตั้งแต่ปี 1990 จากการวิเคราะห์ของ Bank of America พบว่า ดัชนี S&P500 มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยและค่ามัธยฐานต่ำสุดในเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดือนอื่น ๆ

  • เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม S&P500 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 2% ต่อปี
  • เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน S&P500 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 7% ต่อปี

ซึ่งข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณชนนี้ ทำให้แนวคิด “Sell in May and Go Away” ปรากฏขึ้นในช่วงเวลานี้ของปี ซึ่งเป็นการขายหุ้นในเดือนพฤษภาคม เพื่อถือเงินสดไว้ และซื้ออีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อผลการดำเนินงานมีแนวโน้มดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเกี่ยวกับ Sell in May and Go Away เริ่มน้อยลง โดยมีนักวิเคราะห์หลายกลุ่มออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Sell in May ว่า ผลงานของหุ้นในอดีตไม่สามารถวัดประสิทธิภาพในอนาคตได้ นอกจากนี้ ปัจจุบันโลกยังมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้น และสร้างความผันผวนแก่ตลาดหุ้นได้ หมายความว่า มันไม่มีอะไรแน่นอนที่จะมาคอนเฟิร์มในปรากฎการณ์ Sell in May หรือ Sell in May and Go Away นี้

Sell in May and Go Away 2023 จะเกิดขึ้นหรือไม่?

ต้องยอมรับว่า ความเชื่อเกี่ยวกับ Sell in May and Go Away นั้นเกิดมาอย่างยาวนาน และมีข้อมูลสนับสนุนจริง แต่นั้นมันดูเหมือนจะเป็นอดีตไปแล้ว หากดูข้อมูลสถิติย้อนหลัง 10 ปี จะพบว่า Sell in May ไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไรนัก โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

sell in may คือ
ที่มา: thestandard

จากตารางจะเห็นว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นของประเทศต่าง ๆ ในเดือนพฤษภาคม ส่วนใหญ่จะมีผลตอบแทนเป็น “บวก” เช่น ตลาดหุ้นจีน, ญี่ปุ่น, สหรัฐฯ โดยจะอยู่ระหว่าง +0.41-+1.43% ยกเว้นตลาดหุ้นประเทศไทย หรือ SET ที่มีผลตอบแทนติดลบเฉลี่ย 0.56% ในช่วงเดือนพฤษภาคม ดังนั้น หากวิเคราะห์ในภาพรวมอาจสรุปได้ว่า ปรากฎการณ์ Sell in May หรือ Sell in May and Go Away เริ่มมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นน้อยลงในปี 2023

อย่าพึ่งเชื่อใน Sell in May and Go Away 2023 ถ้ายังไม่ได้อ่านสิ่งนี้!

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ปรากฎการณ์ Sell in May หรือ Sell in May and Go Away เริ่มมีนัยสำคัญต่อการลงทุนลดลงจากแต่ก่อน แต่ยังคงต้องรอดูปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจเข้ามากระทบต่อตลาดเงินได้ โดยประเด็นที่น่าสนใจ มีดังนี้

ประเด็นแรก ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการประกาศตัวเลขการคาดการณ์ผลการดำเนินงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐ S&P500 สัดส่วนประมาณ 70% ออกมาค่อนข้างดี ซึ่งอาจส่งผลต่อตลาดหุ้น และกระตุ้นให้ตลาดหุ้นสามารถพยุงราคาต่อไปได้

ประเด็นต่อมา นโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งในการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2023 FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ย +0.25% ตามที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ และยังมีสัญญาณว่า การขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ไม่อยู่ในโซนที่รุนแรงแล้ว จากเหตุการณ์ครั้งนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า มีโอกาสที่ดอลลาร์จะแข็งค่าในระยะสั้น และตลาดหุ้นอาจต้องเผชิญกับแรงเทขายของหุ้นที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ย เช่น กลุ่มเทคโนโลยี

ประเด็นสุดท้าย หลังจากที่สถานการณ์เงินเฟ้อเริ่มคลี่คลาย ตอนนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) โดยตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่จะประกาศออกมาในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม จะส่งผลต่อตลาดหุ้นโดยตรง เช่น ตัวเลขยอดขายกลุ่มค้าปลีก และตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งหากประกาศออกมาแล้วมีการชะลอตัวลงไม่รุนแรงนัก อาจส่งผลดีต่อตลาดหุ้น

——————————🐣——————————-

สรุป

Sell in May คือ ปรากฏการณ์เทขายอย่างรุนแรงในเดือนพฤษภาคม ซึ่งมักจะเกิดกับตลาดหุ้น เนื่องจากข้อมูลในอดีตผลประกอบการตลาดหุ้นมักจะลดลงอย่างรุนแรงในช่วงพฤษภาคมถึงตุลาคม จึงทำให้เกิดวลีที่ว่า “Sell in May and Go Away” ขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำ โดยนักลงทุนควรกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท สำหรับในช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นเช่นนี้ เราอาจลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจาก ณ ตอนนี้ให้ผลตอบแทนที่สูง และหากเราถือจนครบสัญญาก็แทบไม่ขาดทุน ถึงแม้ว่า FED อาจมีนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคต

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะมีค่า P/E Ratio ที่ต่ำกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก และคาดการณ์ว่า ในปี 2023 อัตราการเติบโตจะไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะลงทุนในระยะยาว

Table of Contents
TOP FOREX BROKERS
1
5/5
IUX Markets
IUX Markets
5/5
2
3/5
IC Markets
IC Markets-top-forex-brokers
IC Markets
4/5
3
4/5
FXGT.com
FXGT.com
4/5
4
3/5
Hantec Markets
Hantec Markets
3/5
5
4/5
Eightcap
Eightcap
3/5

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

– Advertisement –

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

FOLLOW US
บทความที่เกี่ยวข้อง

– Advertisement –