Table of Contents
Table of Contents

สรุปม้วนเดียวจบ! ตลาด TFEX คืออะไร? มือใหม่ควรรู้อะไรบ้าง? 

TFEX คืออะไร

นักลงทุนหลาย ๆ คนคงคุ้นชินกับการซื้อขายบนตลาดหุ้น แต่จากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นลงตามสถานการณ์สำคัญ เพราะหลักการของตลาดหุ้น คือ ซื้อถูกขายแพง ซึ่งทำกำไรได้เพียงตลาดขาขึ้นเท่านั้น แต่มันจะดีกว่าไหม? ที่นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เป็นเหตุให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์มองหาการลงทุนใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น

วันนี้ทีมงาน Gotradehere จะพาทุกคนมารู้จักกับตลาด TFEX ที่มีจุดเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นใช้เงินทุนต่ำ, ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง, มีระบบการเทรดที่ทันสมัย และมีความน่าเชื่อถือ เพราะมีหน่วยงานที่ให้ความคุ้มครองในไทย (ก.ล.ต.) นั่นเอง ซึ่งตลาด TFEX คืออะไร? มือใหม่ควรรู้อะไรบ้าง? ไปหาคำตอบกัน!

TFEX หรือ Thailand Futures Exchanges คือ ตลาดการซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2547 ภายใต้พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ.2456 โดยมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้กำกับดูแล

โดยปกติแล้ว TFEX สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

TFEX คืออะไร

1. Future คือ สัญญาการซื้อขายล่วงหน้า โดยผู้ซื้อและผู้ขายจะกำหนดราคาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่จะทำการส่งมอบและชำระเงินในอนาคต ซึ่งจุดเด่นของ Future คือ ผู้ซื้อและผู้ขายไม่จำเป็นต้องถือสัญญาจนครบกำหนด โดยสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ผ่าน TFEX

TFEX คืออะไร

2. Option คือ สัญญาสิทธิล่วงหน้า โดยผู้ซื้อมีสิทธิในการซื้อ-ขายสินทรัพย์อ้างอิงตามราคา, จำนวน และระยะเวลาที่ระบุไว้จากผู้ขาย ซึ่งผู้ซื้อจะต้องจ่ายค่าพรีเมียม (Premium) โดยจะสามารถเลือกได้ว่า จะใช้สิทธิหรือไม่ใช้ก็ได้ แต่ผู้ขายต้องปฏิบัติตามสัญญา หากผู้ซื้อจะขอใช้สิทธิ ซึ่งสัญญาจะเป็นไปตามมาตรฐานที่ทางตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เป็นผู้กำหนด

TFEX ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่สามารถอ้างอิงตราสารหนี้, ตราสารทุน และสินค้าโภคภัณฑ์ โดยนักลงทุนที่ต้องการซื้อขาย Future และ Option ในตลาด TFEX จะต้องติดต่อเพื่อเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกของตลาด TFEX รวมทั้ง จะต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานก.ล.ต. โบรกเกอร์จึงจะรับคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าได้ โดยคุณสามารถติดตามรายชื่อโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตได้ที่นี่

 สินทรัพย์ที่สามารถซื้อขายใน TFEX แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่

  • ตราสารทุน ได้แก่ ดัชนีราคาหลักทรัพย์ และหลักทรัพย์ 
  • ตราสารหนี้ ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล และอัตราดอกเบี้ย
  • สินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่ ทองคำ, โลหะ และ น้ำมันดิบ เป็นต้น
  • อัตราการแลกเปลี่ยน ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น
  • สินค้าการเกษตร ได้แก่ ข้าว, ยางพารา และมันสำปะหลัง เป็นต้น

ตัวอย่างสินค้า TFEX

สินค้าใน TFEX มีอะไรบ้าง
สินค้าใน TFEX มีอะไรบ้าง
สินค้าใน TFEX มีอะไรบ้าง
สินค้าใน TFEX มีอะไรบ้าง
สินค้าใน TFEX มีอะไรบ้าง
สินค้าใน TFEX มีอะไรบ้าง

  • เทรดเดอร์หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์ในการอ่านดัชนีหุ้น
  • เทรดเดอร์หรือนักลงทุนมือใหม่ที่มีความสนใจเกี่ยวกับตลาดอนุพันธ์

TFEX เล่นยังไง

ที่มารูปภาพ : บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

อันดับแรกเทรดเดอร์มือใหม่ควรทราบก่อนว่า สถานะของ TFEX สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สถานะและสามารถเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์ได้ที่แอปพลิเคชัน Streaming โดยสถานะการซื้อขายมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

  • Long Position คือ สถานะการซื้อ เป็นสัญญาที่ผู้ถือสัญญาจะซื้อสินทรัพย์อ้างอิงตามราคาและระยะเวลาที่กำหนด ซึ่ง Long Position เป็นสถานะที่ควรเปิด เมื่อตลาดมีการปรับตัวขึ้น หรือสามารถเรียกง่าย ๆ ว่า “สถานะเปิดซื้อก่อนขาย” นั่นเอง
  • Short Position คือ สถานะการขาย เป็นสัญญาที่ผู้ถือสัญญาจะขายสินทรัพย์อ้างอิงตามราคาและระยะเวลาที่กำหนด ซึ่ง Short Position เป็นสถานะที่ควรเปิด เมื่อตลาดมีการปรับตัวลง หรือสามารถเรียกง่าย ๆ ว่า “สถานะเปิดขายก่อนซื้อ” นั่นเอง

เมนูคำสั่งคำศัพท์
Lineวงเงินที่ได้รับในการซื้อขายอนุพันธ์
EEเงินส่วนที่เหลือหลังจากหักหลักประกันจากการเปิดสัญญาไปแล้ว
Equityเงินที่มีอยู่ทั้งหมด หลังจากหักกำไรและขาดทุนแล้ว
Limitส่งคำสั่งซื้อขายตามราคาที่กรอกอยู่ในช่อง Price
ATOส่งคำสั่งซื้อขาย ณ ราคาเปิด
Market Orderคำสั่งซื้อขายที่ใช้เมื่อผู้ลงทุนต้องการซื้อหรือขายทันที ณ ราคาที่ดีที่สุดในขณะนั้น
Auctionคำสั่งซื้อขายจะหมดอายุทันทีที่เข้าช่วง Pre-open ถัดไป
Auto-Mส่งคำสั่งในช่วง Pre-Open เท่านั้น โดยจะจับคู่ที่ราคาเปิด หากจับคู่ไม่หมดคำสั่งจะถูกยกเลิก
Cancelคำสั่งซื้อขายจะหมดอายุ หลังจากที่ Series นั้น ๆ หมดอายุแล้ว
Dateคำสั่งซื้อขายจะหมดอายุ หลังจบ Afternoon Session ของวันที่กำหนด
Dayคำสั่งซื้อจะมีผลไปจนกว่าจะหมดวัน
FOKคำสั่งซื้อขายจะถูกจับคู่ทันที แต่คำสั่งซื้อจะต้องจับคู่ตามจำนวนให้หมด หากจับคู่ไม่หมดคำสั่งจะถูกยกเลิก
IOCคำสั่งซื้อขายจะถูกจับคู่ทันทีตามจำนวนที่สามารถจับคู่ได้ โดยส่วนที่เหลือจะถูกยกเลิก
Sessionคำสั่งซื้อขายจะหมดอายุทันที หลังจากที่ถึง Session ที่กำหนดแบบวันต่อวัน
Timeคำสั่งซื้อขายจะหมดอายุทันทีที่ถึงวันและเวลาที่กำหนด

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า TFEX สามารถเก็งราคาได้ทั้ง 2 ทาง คือ ตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง ซึ่งจะแตกต่างจากการซื้อหุ้นที่สามารถทำได้ทางเดียว คือ ตลาดขาขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ทางทีมงาน Gotradehere จึงได้รวบรวม 5 ขั้นตอนการเทรดสำหรับมือใหม่ว่า TFEX เล่นยังไง? เพื่อให้คุณเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

ขั้นตอนแรก คือ คุณควรศึกษาการเปิดสถานะให้เข้าใจก่อน เพื่อการตัดสินใจในการเทรดที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้ง จำเป็นต้องศึกษาการคำนวณกำไรและขาดทุนที่คุณสามารถยอมรับได้อีกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น 1 จุดของ TFEX มีมูลค่า 200 บาท ต่อ 1 สัญญา หากคุณเปิด 20 สัญญา และได้กำไรมาที่ 20.5 จุดต่อสัญญา คุณจะได้เงิน 20 x (20.5 x 200) = 82,000 บาท แต่หากคุณขาดทุนที่ 20.5 จุดต่อสัญญา คุณก็จะขาดทุนที่ 82,000 บาท เช่นกัน ดังนั้นแล้ว การคำนวณกำไรและขาดทุนจึงถือว่า มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

ขั้นตอนต่อมา คือ การเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นสมาชิกของตลาด TFEX เพราะบัญชี TFEX เป็นบัญชีเฉพาะที่ไม่สามารถเปิดด้วยบัญชีหุ้นได้ ทำให้เทรดเดอร์ต้องวางหลักประกันขั้นต่ำตามเงื่อนไขที่โบรกเกอร์แต่ละรายเป็นผู้กำหนด ซึ่งจะอ้างอิงจากอัตราที่บริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้กำหนด เพื่อให้การรองรับกับความผันผวนของราคาสินค้าอ้างอิงได้

การวางหลักประกัน (Margin) คือ สินทรัพย์ที่ผู้ซื้อจะต้องลงไปเป็นหลักประกันให้กับผู้ขาย เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะปฏิบัติตามพันธะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ตกลงกันไว้ โดยสินทรัพย์สามารถแบ่งออกได้เป็น เงินสดสกุลเงินบาท, เงินสดสกุลเงินต่างประเทศ, พันธบัตรรัฐบาล และหลักทรัพย์จดทะเบียน เป็นต้น

โดยปกติแล้ว การวางหลักประกันสำหรับการซื้อขายในรูปแบบ Future นั้น ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องวางเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นหลักประกันก่อนที่จะส่งคำสั่งซื้อขายออกไป ซึ่งหลักประกันนี้เรียกว่า หลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) 

ส่วนการซื้อขายในรูปแบบของ Option นั้น ผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องวางหลักประกันขั้นต้น เนื่องจากผู้ซื้อจ่ายค่าพรีเมียม (Premium) ตั้งแต่แรกไปแล้ว ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกใช้สิทธิหรือไม่ใช้สิทธิ แล้วปล่อยให้ Option หมดอายุก็ได้ แต่ผู้ขาย Option จะต้องวางหลักประกันขั้นต้นก่อนการขายทุกครั้ง เพราะผู้ขายมีแนวโน้มจะไม่ทำตามสัญญามากกว่าผู้ซื้อ เป็นเหตุให้ผู้ขาย Option ต้องวางหลักประกันขั้นต้นก่อนการขายตามที่โบรกเกอร์เป็นผู้กำหนด

ดังนั้นแล้ว การเลือกโบรกเกอร์ควรเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ, มีการวางหลักประกันที่เหมาะสม รวมทั้ง สามารถเปิดคำสั่งซื้อ-ขายผ่านโบรกเกอร์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยให้คุณสามารถเทรดได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

ขั้นตอนถัดมา คือ คุณควรตรวจสอบกำไร-ขาดทุนในการเทรดทุกครั้ง เพื่อพิจารณาว่า ได้กำไรที่น่าพึงพอใจมากน้อยแค่ไหน? และการขาดทุนยังเป็นการขาดทุนที่คุณยอมรับได้หรือไม่? เพื่อให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยปกติแล้ว การเทรด Future จะมีการคำนวณกำไร-ขาดทุนในทุก ๆ สิ้นวันทำการ (Mark to Market) หากเทรดเดอร์ได้กำไรในบัญชีจะมีเงินเพิ่มขึ้น แต่ในทางตรงข้ามกัน หากเทรดเดอร์ขาดทุนในบัญชีจะมีเงินลดลง ซึ่งหากขาดทุนเรื่อย ๆ จนต่ำกว่าในระดับที่กำหนดไว้ หรือที่เรียกว่า หลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin) โบรกเกอร์จะเรียกเก็บหลักประกันเพิ่มขึ้น (Margin Call) ซึ่งจะต้องเป็นจำนวนเงินที่เท่ากับหลักประกันขั้นต้นก่อนหน้านั่นเอง 

หากผู้ลงทุนไม่วางหลักประกันเพิ่มและมีสถานะขาดทุนเรื่อย ๆ จนถึงหลักประกันขั้นต่ำที่ผู้ลงทุน Future ต้องมี โดยเรียกว่า “Force Close” สถานะของผู้ลงทุนจะถูกบังคับให้ปิดลงนั่นเอง

สำหรับ การเทรด Option นั้น ผู้ซื้อจะไม่มีการวางหลักประกันขั้นต้นอยู่แล้ว ทำให้ไม่มี Mark to Market แต่ผู้ขายจะมีการทำ Mark to Market แทน เพราะต้องวางหลักประกันขั้นต้นก่อนการขายทุกครั้ง ซึ่ง Mark to Market จะมีความแตกต่างกับ Futures คือ จะไม่มีโอนกำไร-ขาดทุนในทุก ๆ สิ้นวันทำการ แต่จะเปลี่ยนเป็นการคำนวณหลักประกันขั้นต้นและหลักประกันรักษาสภาพในทุกวันแทน ทำให้หลักประกันของเทรดเดอร์จะไม่เปลี่ยนแปลง 

แต่หากสินทรัพย์อ้างอิงเกิดการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ผู้ขายมีความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ผู้ขายจะต้องนำหลักประกันมาวางเพิ่มเติมให้มีค่าเท่ากับหลักประกันขั้นต้นที่โบรกเกอร์กำหนด ซึ่งจะเป็นหลักประกันใหม่ที่โบรกเกอร์ตั้งไว้จะสูงกว่าระดับเงินที่ผู้ขายวางไว้นั่นเอง

ขั้นตอนสุดท้ายสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ คือ การหมั่นตรวจเช็กสถานะและวัดผลการดำเนินงาน เพื่อให้การเทรดของคุณไม่ประมาทจนเกินไป ซึ่งการปิดสถานะนั้น สามารถทำได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่ต้องรอให้สินทรัพย์อ้างอิงสิ้นสุดสัญญา หากคุณเห็นว่า กำไรที่ได้รับไม่คุ้มค่ากับการลงทุนของคุณ

นอกจากนี้ คุณสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับการเทรดของคุณได้ทุกเมื่อ หากผลการดำเนินงานของคุณไม่เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ โดยสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ TFEX หรือ TFEX Predator เป็นต้น

เล่น TFEX ต้องมีเงินเท่าไหร่

สำหรับการเล่น TFEX ต้องมีเงินเท่าไหร่จึงจะสามารถเทรดได้นั้น ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการวางหลักประกันกับโบรกเกอร์ที่คุณใช้บริการ ซึ่งปกติแล้วการซื้อขาย TFEX จะใช้เงินทุนอยู่ที่ 10%-15% จากมูลค่าที่แท้จริง โดยเป็นเงินที่เอาไปวางเป็นหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) นั่นเอง ซึ่งผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีในพอร์ตการลงทุนมากกว่าอัตราที่กำหนดจึงจะสามารถเปิดสถานะได้

อัตราการแลกเปลี่ยนหลักประกันซื้อขายล่วงหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปตามความผันผวนของดัชนี เทรดเดอร์และนักลงทุนสามารถตรวจสอบอัตราหลักประกันก่อนการซื้อขายได้ที่โบรกเกอร์ที่ให้บริการหรือสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่นี่

  • ใช้เงินทุนน้อย 
  • ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เพราะสามารถคิดกำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อขายได้
  • มีระบบการเทรดที่ทันสมัย
  • มีความน่าเชื่อถือ เพราะมีหน่วยงานที่ให้ความคุ้มครองในไทย (ก.ล.ต.)

รู้หรือไม่? บุคคลทั่วไปจะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีส่วนต่างราคาซื้อขาย แต่สำหรับนิติบุคคลจะมีภาระภาษีจากส่วนต่างราคาซื้อขาย โดยการซื้อขายนี้จะไม่มีภาษีหัก ณ ที่จ่าย แต่จะเป็นการนำรายได้ไปคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายแทน

เช็กเลย! การเสียภาษีรายได้จากต่างประเทศ เตรียมพร้อมอะไรบ้าง? เริ่มปี 2567 นี้!

การเทรด TFEX มีความแตกต่างกับการเทรด Forex ดังตาราง ต่อไปนี้

TFEXForex
ขนาดของตลาด– มีการซื้อขายเฉพาะในไทย– มีการซื้อขายทั่วโลก
เวลาเปิด-ปิด– 9.45 น.-16.55 น. ตามเวลาตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย– Forex จะเปิดซื้อขายทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ตลอด 24 ชั่วโมง
การฝาก-ถอนเงิน– การฝากเงินเข้าทันที
– การถอนเงินจะต้องรอ T+1 หรือ T+2
– การฝากเงินเข้าทันที
– การถอนเงินเข้าทันที


คุณกำลังสนใจบทความเกี่ยวกับการเทรด Future ให้มีประสิทธิภาพอยู่หรือเปล่า?

เทรด Spot Vs เทรด Futures แตกต่างกันอย่างไร?

สรุปครบจบ! รูปแบบแท่งเทียน Price Action คืออะไร? เทรดง่าย ๆ ด้วย “ตาเปล่า” พร้อมตัวอย่างการเทรด Forex

มัดรวม! แท่งเทียน Price Action 12 แบบ ที่เกิดบ่อยและมีโอกาสกลับตัวสูงกว่า 70%

TFEX กับ Future ต่างกันอย่างไร

ไม่ต่างกัน เพราะ TFEX เป็นตลาดการซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) ที่มีการซื้อขายสินทรัพย์อนุพันธ์อย่าง Future และ Option ดังนั้น การเล่น TFEX ก็เปรียบเสมือนการเล่น Future และ Options นั่นเอง

Future กับ Option ต่างกันอย่างไร?

Future คือ สัญญาการซื้อขายล่วงหน้า โดยผู้ซื้อและผู้ขายจะกำหนดราคาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วน Option คือ สัญญาสิทธิล่วงหน้า โดยผู้ซื้อมีสิทธิในการซื้อ-ขายสินทรัพย์อ้างอิงตามราคาและระยะเวลาที่ระบุไว้จากผู้ขาย

การเล่น TFEX ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะสามารถเทรดได้?

การเล่น TFEX ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะสามารถเทรดได้นั้น จะขึ้นอยู่กับการวางหลักประกันกับโบรกเกอร์ที่คุณใช้บริการ ซึ่งปกติแล้วจะใช้เงินทุนอยู่ที่ 10%-15% จากมูลค่าที่แท้จริงถึงจะเหมาะสม

มือใหม่หัดเทรด TFEX ต้องรู้อะไรบ้าง?

  • ศึกษาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ TFEX
  • เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อ
  • การวางหลักประกัน
  • ตรวจสอบกำไร-ขาดทุนในการเทรดทุกครั้ง
  • หมั่นตรวจเช็กสถานะและวัดผลการดำเนินงาน

จากที่กล่าวไปข้างต้น เห็นได้ว่า TFEX เป็นตลาดที่มีการซื้อขายล่วงหน้า โดยเป็นสินทรัพย์อ้างอิงที่ไม่ได้มีมูลค่าด้วยตัวมันเอง แต่มูลค่าของมันมักจะเคลื่อนไหวไปตามทิศทางเดียวกับสินทรัพย์อ้างอิงนั้น ๆ ซึ่งจุดเด่นของ TFEX คือ สามารถทำกำไรได้ทั้ง 2 ทาง ไม่ว่าจะเป็นในตลาดขาขึ้นหรือตลาดขาลง รวมทั้ง ยังสามารถใช้เงินทุนต่ำ เพราะไม่จำเป็นต้องวางเงินทุนเต็มจำนวนก็สามารถเทรดได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การเทรด TFEX ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน หากนักลงทุนไม่มีการวางแผนในการวางหลักประกันก็สามารถมีโอกาสในการขาดทุนได้ ดังนั้นแล้ว นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นและเพื่อให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ

ที่มา : SET และ Rabbitcare


อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge

อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News

Table of Contents
TOP FOREX BROKERS
1
5/5
IUX Markets
IUX Markets
5/5
2
3/5
IC Markets
IC Markets-top-forex-brokers
IC Markets
4/5
3
4/5
FXGT.com
FXGT.com
4/5
4
3/5
Hantec Markets
Hantec Markets
3/5
5
4/5
Eightcap
Eightcap
3/5

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

– Advertisement –

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

FOLLOW US
บทความที่เกี่ยวข้อง

– Advertisement –