วัฏจักรเศรษฐกิจ คืออะไร? วิธีการเลือกหุ้นเด่นตาม Economic Cycle 

วัฏจักรเศรษฐกิจหรือ Economic Cycle เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากสำหรับนักลงทุน เพราะหากสามารถคาดการณ์ได้ว่าลักษณะเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางใด ก็จะสามารถช่วยให้เราวางแผนการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น วันนี้ Gotradehere จึงอยากแนะนำกลุ่มหุ้นที่น่าลงทุนในวัฏจักรเศรษฐกิจรูปแบบต่าง ๆ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

วัฏจักรเศรษฐกิจ หรือ Economic Cycle คืออะไร ?

วัฏจักรเศรษฐกิจ หรือ Economic Cycle คือ การหมุนเวียนหรือเปลี่ยนแปลงไปของสภาพเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา โดยจะแสดงออกมาในรูปแบบของวัฏจักรทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังนี้ครับ 

• ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) 
• ช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู (Peak)
• ช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession) 
• ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)

โดยรูปแบบของวัฏจักรเศรษฐกิจเหล่านี้จะเกิดขึ้นโดยปัจจัยต่าง ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP), อัตราดอกเบี้ย, การจ้างงานทั้งหมด และการใช้จ่ายของผู้บริโภค เป็นต้นครับ

วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) มีประโยชน์กับนักลงทุนอย่างไร ?

• ช่วยให้นักลงทุนสามารถมองหาโอกาสในการลงทุนได้ง่ายขึ้น
• มองเห็นภาพรวมเศรษฐกิจ ประเมินความเสี่ยงจากการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ช่วยวิเคราะห์เพื่อวางแผนการลงทุนในอนาคตได้ดีขึ้น
• ลดความเสี่ยงจากการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในแต่ละช่วง

วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) กับหุ้นสัมพันธ์กันอย่างไร ?

สำหรับวัฏจักรเศรษฐกิจจะบอกถึงสภาพของเศรษฐกิจในแต่ละช่วง ซึ่งสัมพันธ์กับราคาของหุ้นเช่นกัน หากสภาพเศรษฐกิจในช่วงนั้นกำลังเฟื่องฟูหรือตกต่ำย่อมส่งผลต่อผลประกอบการของธุรกิจหรือบริษัท ซึ่งส่งผลกระทบไปถึงราคาหุ้นนั่นเองครับ

หากนักลงทุนสามารถเข้าใจสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจในแต่ละช่วงของวัฏจักรได้อย่างลึกซึ้ง จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์หุ้นที่สามารถเติบโตในวัฏจักรเศรษฐกิจนั้น ๆ ได้ดี กล่าวคือ นักลงทุนจะมีโอกาสเลือกหุ้นที่สามารถให้ผลตอบแทนได้ดี ณ ช่วงเวลานั้นครับ

📖 สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่อยากเริ่มลงทุนหุ้นแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? 🔖
สามารถอ่านคู่มือสำหรับการเริ่มต้นเทรดหุ้นได้ในบทความด้านล่างนี้เลยครับ
>> มือใหม่อยากเริ่มเทรดหุ้นทำยังไง ? อ่านจบพร้อมเทรดแน่นอน! ฉบับ 2024 <<

วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) ใช้เลือกหุ้นยังไงได้บ้าง?

📌 วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) : ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery)

ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากผ่านภาวะตกต่ำมา ผลประกอบการเริ่มดีขึ้น สังเกตได้จากเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ, สินค้ามีแนวโน้มราคาสูงขึ้น, GDP Growth ปรับตัวเพิ่มขึ้น, ธนาคารปล่อยสินเชื่อต่ำและการผลิต รวมไปถึงการจ้างงานเริ่มเพิ่มขึ้น

หุ้นที่น่าสนใจในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery)

• กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง : เพราะผู้คนมีแนวโน้มที่จะซื้อ และก่อสร้างที่อยู่อาศัยมากขึ้น โครงการสร้างก็เพิ่มขึ้น
• กลุ่มธนาคารและการเงิน : เพราะผู้คนจะซื้อผลิตภัณฑ์การลงทุนมากขึ้น กู้ยืมเพื่อนำไปลงทุนมากขึ้น และทางธนาคารก็จะออกผลิตภัณฑ์มากขึ้น
• กลุ่มพลังงานและสินค้าอุตสาหกรรม : เพราะธุรกิจมีโอกาสเติบโตและส่งออกมากขึ้น ผู้คนในประเทศเดินทางมากขึ้น รวมถึงจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

📌 วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) : ช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู (Peak)

ในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู เกิดขึ้นหลังจากผ่านช่วงฟื้นตัวมาแล้ว โดยสังเกตได้จากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจ, GDP สูงแต่เริ่มช้าลงจากไตรมาสก่อน, ผลผลิต และการจ้างงานอยู่ในระดับสูง, มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมทั้งราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น เกิดการกดดันให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

หุ้นที่น่าสนใจในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู (Peak)

• กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค : เพราะผู้คนมีกำลังทรัพย์ที่จะซื้อตุนสินค้ามากขึ้น และมีโอกาสผลิตสินค้ามากขึ้น
• กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ : เพราะธุรกิจมีโอกาสเติบโตและส่งออกมากขึ้น
• กลุ่มท่องเที่ยวและบริการ : เพราะมีแนวโน้มที่ผู้คนจะออกท่องเที่ยวในช่วงเศรษฐกิจรุ่งเรือง

📌 วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) : ช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงจากการฟื้นฟูและขยายตัว สังเกตได้จากตัวเลขทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง, GDP เริ่มชะลอตัวลง, ผลผลิต และการจ้างงานลดลง, ผู้คนเริ่มไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย และราคาสินค้าบางตัวเริ่มปรับต่ำ

หุ้นที่น่าสนใจในช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

• กลุ่มโรงพยาบาลและสุขภาพ : เพราะเป็นปัจจัยหลักในการใช้ชีวิตที่ขาดไม่ได้หากเกิดเจ็บป่วย ดังนั้น ถ้าหากว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย กลุ่มหุ้นเหล่านี้ยังสามารถโตขึ้นได้
• กลุ่มสาธารณูปโภคพื้นฐาน : เพราะเป็นกลุ่มหุ้นที่มีความมั่นคง จ่ายปันผลสม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงให้คนลงทุนได้
• กลุ่มธนาคารและการเงิน : เพราะธนาคาร และการเงินจะมีมาตรการมารองรับผู้คนที่เริ่มเกิดปัญหาการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสเติบโตได้

📌 วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) : ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)

เป็นสภาวะที่เศรษฐกิจหดตัวลง ทั้งตัวเลขว่างงานที่สูงจนส่งผลให้รายได้ประชาชนลดลง สังเกตได้จากเงินเฟ้อปรับตัวลดลง, GDP ลดลงต่ำจนอาจจะต่ำสุด, การผลิตต่ำลง และอัตราว่างงานสูงขึ้น, ผู้คนไม่มีกำลังซื้อ และราคาสินค้าต่ำลงจนล้นตลาด

หุ้นที่น่าสนใจในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)

• กลุ่มสินค้าประเภท Inferior Goods : เพราะผู้คนจะพยายามลดรายจ่ายให้ได้มากที่สุด สินค้าด้อยคุณภาพจึงมีโอกาสเติบโตสูง
• กลุ่มบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ : เพราะผู้คนมักมองหาหลักการเงินให้พึ่งพา และธนาคารจะเริ่มอนุมัติยากในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
• กลุ่มเทคโนโลยี : เพราะเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ และถูกมองว่าเป็น Mega Trends ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวัง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle)

วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) มีกี่ระยะ ?

สำหรับวัฏจักรเศรษฐกิจสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 4 ระยะ ดังนี้ครับ

• ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery)
• ช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู (Peak)
• ช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession)
• ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)

วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) เกี่ยวข้องกับการลงทุนอย่างไร ?

วัฏจักรเศรษฐกิจช่วยบอกถึงสภาพของเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งมีผลกับการลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจหรือปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ส่งผลต่อผลประกอบการและรายได้ของธุรกิจและบริษัท ดังนั้นแล้ว วัฏจักรเศรษฐกิจจึงมีส่วนช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

เงินเฟ้อจะลดลงในวัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) ช่วงใด

เงินเฟ้อจะลดลงในวัฏจักรเศรษฐกิจช่วงตกต่ำ (Trough) เนื่องจากอัตราการว่างงานในวัฏจักรเศรษฐกิจระยะนี้ลดลง, รายได้ของประชาชนลดลง, กำลังซื้อลดลง และสินค้าเริ่มถูก ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศเริ่มปรับตัวลดลงครับ 

สรุปเกี่ยวกับวัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) และหุ้นที่น่าสนใจ

วัฏจักรเศรษฐกิจ (Economic Cycle) คือ การหมุนเวียนของสภาพเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา ช่วยบอกถึงภาพรวมของเศรษฐกิจและปัจจัยอื่น ๆ ภายในประเทศ เช่น อัตราการจ้างงาน, ราคาสินค้า, รายได้ของประชาชน, GDP หรือแม้แต่กำลังการผลิตของธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งวัฏจักรเศรษฐกิจสามารถแบ่งได้ทั้งหมด 4 ระยะ ดังนี้ครับ

• ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery)
• ช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู (Peak)
• ช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession)
• ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)

นอกจากนี้วัฏจักรเศรษฐกิจยังช่วยให้นักลงทุนในสินทรัพย์ประเภท “หุ้น” สามารถประเมินความน่าสนใจหรือความเสี่ยงของการลงทุนหุ้นในแต่ละช่วงวัฏจักร แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อราคาหุ้นเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนครับ

⚠️ สุดท้ายนี้ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน และบทความนี้เป็นเพียงการให้ความรู้ ไม่ใช่การแนะนำหรือชักชวนให้ลงทุนแต่อย่างใดครับ