โดนไล่มารีวิวตรงนี้ : โบรกเกอร์ Liteforex

List of Contents

นักเทรดหลายคนคงจะรู้จักชื่อเสียงของโบรกเกอร์กันมาบ้างหลาย จากประวัติเปิดทำการมายาวนานกว่า 16 ปีของ Liteforex จนถือว่าได้รับชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดีวันนี้เราจะมารีวิวภาพรวมทั้งหมดรวมไปถึงการสรุปข้อดีและข้อเสียกันของโบรกเกอร์เจ้านี้กัน!

LiteForex ประเทศไทย - โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์อันดับต้นๆ ในตลาด | ทำงานตั้งแต่ปี  พ.ศ. 2548

ภาพรวมโบรกเกอร์ Liteforex

  • จัดตั้งขึ้นเมื่อ : ปี 2005
  • สำนักงานอยู่ที่ : ประเทศไซปรัส
  • ใบอนุญาติ : CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission)
  • Leverage สูงสุดที่ 1 : 500
  • เริ่มต้นเงินฝากที่ขั้นต่ำ : $10
  • Spread เริ่มต้น : 0.0 Pips
  • แฟลตฟอร์มการเทรด : Metatrader 4  & Metatrader 5
  • โบนัส : คืนค่าธรรมเนียมของระบบการชำระเงินในการฝากเงิน

ประเภทบัญชี

จะมีอยู่ 3 ประเภทบัญชี ได้แก่

image 2
โดนไล่มารีวิวตรงนี้ : โบรกเกอร์ Liteforex 9

1.บัญชี ECN

เป็นบัญชีที่เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และมีความเป็นมืออาชีพ และมีสเปรดต่ำสุด โดยบัญชี ECN เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสามารถเข้าถึงราคาที่ดีที่สุดในตลาด โดยทางโบรกเกอร์ยืนยันถึงความมั่นคงและไม่มีการปรับราคาใดๆ

คุณสมบัติของบัญชี ECN

  •  ฝากขั้นต่ำ : $50
  • Leverage 1 : 500
  • Spread : 0.0 pips
  • มีค่าคอมมิชชั่น $ 5 ต่อล็อต
  • ไม่มี Stop & Limit Levels
  • การซื้อขายเทรดจะส่งตรงไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่อง

2.บัญชี Classic

บัญชี Classic นี้เหมาะกับนักเทรดมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ทั่วไป เพราะมีความยืดหยุ่นสูงในการให้บริการลูกค้า แต่ไม่แนะนำสำหรับนักเทรดประเภท Scalping เนื่องจากค่าสเปรดที่ค่อนข้างสูง

คุณสมบัติของบัญชี Classic

  • ฝากขั้นต่ำ $ 50
  • Leverage 1 : 500
  • Spread : 1.8 pips
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • โบนัสเงินฝาก 30%

3.บัญชี CENT

เป็นบัญชีที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อขายจริงและได้รับผลกำไรเหมือนกับบัญชีทั่วไป

คุณสมบัติของบัญชี CENT

  • ฝากขั้นต่ำ $ 10
  • Leverage 1 : 200
  • Spread : 3.0 pips

และยังมีอีกบัญชีคือ บัญชี Demo ที่เป็นบัญชีทดลองสำหรับการจำลองซื้อขายเสมือนจริงให้นักเทรดมือใหม่ที่เริ่มต้นในการเทรดอีกด้วย

ภาพรวม 3 ประเภทบัญชี

image 3

เพื่อนๆสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของแต่ละบัญชีได้จากภาพนี้เลยนะจ๊ะ

การเปิดบัญชี

เข้าไปที่ตัวเว็บไซต์ liteforex และเข้าไปทำการ ลงทะเบียน ที่มุมขวาบนสุด

1626686736040

จากนั้นทำการกรอกอีเมล หรือ เบอร์โทรศัพท์ และรหัสผ่านให้ครบถ้วนและเมื่อทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วให้ทำการกรอกรหัสยืนยันที่ได้รับทางอีเมลหรือโทรศัพท์

ก

วิธียืนยันตัวตน

1.คลิ๊กไปที่เมนู”โปรไฟล์” แล้วเลือกยืนยัน จากนั้นให้ทำการกรอกข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วนเป็นภาษาอังกฤษ

1 2

2.ในส่วนของ Identity verification และการอัปโหลดเอกสาร เช่น บัตรประชาชน,พาสปอร์ตหรือใบขับขี่ตัวจริงเท่านั้นและต้องเป็นสำเนาสีและชัดเจน

2

การฝาก-ถอน

สามารถฝากและถอนเงินได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ ธนาคาร, บัตรเครดิต, e-wallets และ Cryptocurrency อีกด้วย แต่จะมีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนในทุกธุรกรรม *ยกเว้นการฝากและถอนผ่านทางธนาคารในประเทศ

LiteForex การฝากแล

ในการฝากเงินเข้าบัญชี Liteforex ถือว่าทำได้ง่ายมากๆ เพราะมีช่องทางในการชำระเงินให้เลือกมากมายทั้งบัตรเครดิตหรือการโอนเงิน อย่าง Alipay, Skrill, Neteller และ Perfect Money รวมไปถึงการสามารถใช้ Cryptocurrencies ในการฝากเงินได้ด้วย เช่น Bitcoin, Ethereum และ Litecoin เป็นต้น

การบริการลูกค้า

  •   มีทีมซัพพอร์ทภาษาไทยให้บริการตลอด 7 วันทำการ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 24.00 น.

ข้อดี

  • มีความน่าเชื่อถือสูง
  • มีแพลตฟอร์มการใช้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว
  • มีระบบ SocialTrading (Copytradeได้) 

ข้อเสีย

  • มีค่าSpread สูง
  • มีค่าธรรมเนียมในการฝากถอน
  • มีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม

สรุปภาพรวมโบรกเกอร์ Liteforex

จากการก่อตั้งที่มีมาถึง 15 ปี ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีความมั่นคงและปลอดภัยสูงและ ในตัวแพลตฟอร์มของทาง Liteforex ทำออกมาได้น่าใช้งาน พร้อมกับการมีการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น การมี Spread ที่สูง และค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชั่นอื่นๆ ดังนั้นก็ให้เราพิจารณาตามความเหมาะสมและเลือกตัดสินใจที่จะลงทุนในการเลือกเทรดให้ดีนะจ๊ะ!

bitcoin
Bitcoin อาจขึ้นไปแตะ $45,000 จาก ‘ปัจจัย’ เหล่านี้ ?!

นักวิเคราะห์ JPMorgan ได้ออกมาเผยถึงปัจจัยที่จะดันให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้น โดยเผยว่าหาก BTC เริ่มทำราคาและโครงสร้างการลงทุนที่มีความคล้ายคลึงกันกับทองคำมากขึ้น อาจจะส่งผลให้ราคาของ Bitcoin

สหรัฐฯ
สหรัฐฯ เจรจา “เพิ่มเพดานหนี้” สำเร็จ! รอดภาวะถังแตกแบบฉิวเฉียด

รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ที่อ้างอิงจากแหล่งข่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เควิน แมคคาร์ธี ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการปรับเพิ่มเพดานหนี้1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ไปเมื่อวันที่ 27