⚠ คำเตือน : อย่าลืมพิจารณาข้อมูลของโบรกเกอร์ให้ดีก่อนตัดสินใจเทรด
โบรกเกอร์ LiteForex จัดตั้งขึ้นในปี 2012 เป็นอีกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือปานกลาง และขึ้นชื่อเรื่องสเปรดที่ค่อนข้างสูง ส่วนเรทฝากถอนก็สูงมากเช่นกัน ซึ่งบทความนี้เราจะมารีวิวภาพรวมทั้งหมดของโบรกเกอร์ LiteForex รวมไปถึงการสรุปข้อดีและข้อเสียกันของโบรกเกอร์เจ้านี้กัน!
ภาพรวมโบรกเกอร์ Liteforex
ความเห็นจากผู้ใช้งานจริง
ความคิดเห็น : “Spread กว้างมาก“
ความคิดเห็น : “เรื่องดอกเบี้ยไม่เป็นอย่างที่โฆษณาเลย ระวังโบรกนี้ด้วยครับ เก็บเงินพวกคุณไว้ดีกว่า“
ความคิดเห็น : “ค่าธรรมเนียมสูงเกินไป!“
ความคิดเห็น : “เคยมีประสบการณ์เทรดโบรกนี้ ค่อนข้างแย่เลย“
ประเภทบัญชี
LiteForex มีบัญชีอยู่ 3 ประเภท ดังนี้
1. บัญชี ECN
- ฝากขั้นต่ำ : $50
- Leverage 1:500
- Spread : 0.7 pips
- มีค่าคอมมิชชั่น $ 5 ต่อล็อต
- ไม่มี Stop & Limit Levels
2. บัญชี Classic
- ฝากขั้นต่ำ $ 50
- Leverage 1:500
- Spread : 1.8 pips
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
- โบนัสเงินฝาก 30%
3. บัญชี CENT
- ฝากขั้นต่ำ $ 10
- Leverage 1:200
- Spread : 3.0 pips
ภาพรวม 3 ประเภทบัญชี
แพลตฟอร์มการเทรด
LiteForex มีแพลตฟอร์มการเทรด ดังนี้
- Metatrader 4
- Metatrader 5
การเปิดบัญชี
เข้าไปที่ตัวเว็บไซต์ liteforex และเข้าไปทำการ ลงทะเบียน ที่มุมขวาบนสุด
จากนั้นทำการกรอกอีเมล หรือ เบอร์โทรศัพท์ และรหัสผ่านให้ครบถ้วนและเมื่อทำการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วให้ทำการกรอกรหัสยืนยันที่ได้รับทางอีเมลหรือโทรศัพท์
วิธียืนยันตัวตน
1. คลิกไปที่เมนู”โปรไฟล์” แล้วเลือกยืนยัน จากนั้นให้ทำการกรอกข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วนเป็นภาษาอังกฤษ
2. ในส่วนของ Identity verification และการอัปโหลดเอกสาร เช่น บัตรประชาชน, พาสปอร์ตหรือใบขับขี่ตัวจริงเท่านั้นและต้องเป็นสำเนาสีและชัดเจน
การฝาก-ถอน
สามารถฝากและถอนเงินได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ ธนาคาร, บัตรเครดิต, E-wallets และ Cryptocurrency อีกด้วย แต่จะมีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนในทุกธุรกรรม *ยกเว้นการฝากและถอนผ่านทางธนาคารในประเทศ
ในการถอนเงินเข้าบัญชีนัั้นใช้เวลาถึง 1-2 วันทำการ ซึ่งถือว่าค่อนข้างนานพอสมควรหากเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ๆ
การบริการลูกค้า
มีทีมซัพพอร์ทภาษาไทยให้บริการตลอด 7 วันทำการ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 24.00 น.
สรุปภาพรวมโบรกเกอร์ 2/5 คะแนน
โบรกเกอร์ LiteForex มี Leverage ต่ำ อาจไม่ตอบโจทย์คนไทย ไม่เหมาะกับคนไทย เพราะยังไม่รองรับธนาคารไทย รวมถึงมีค่า Spread ค่อนข้างสูง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเทรดเดอร์ ไม่ว่าจะเป็น Forex, ทองคำ และดัชนีหุ้น ส่วนด้านการฝาก-ถอนก็มีค่าธรรมเนียม และมีค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติม อีกทั้งยังมีในเรื่องของการป้องกันยอดเงินคงเหลือติดลบที่มีให้เฉพาะลูกค้าในยุโรปเท่านั้น และอีกหนึ่งข้อที่น่าเสียดายก็คือ นักเทรดจะสามารถถอนเงินได้เฉพาะจันทร์-ศุกร์เท่านั้น โดยไม่สามารถถอนเงินออกได้จากทุกธนาคารในประเทศไทย และไม่มี Support ในวันหยุด ดังนั้นแล้ว อย่าลืมพิจารณาตามความเหมาะสมและเลือกตัดสินใจที่จะลงทุนในการเลือกเทรดให้ดีนะครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge
อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News