Table of Contents
Table of Contents

แนะนำ! 10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ กำไรต่อเนื่อง 5 ปี สูงสุด 17.56% ส่งท้ายปี 2566

10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ กำไรต่อเนื่อง 5 ปี สูงสุด 17.56% ส่งท้ายปี 2566

นักลงทุนที่กำลังมองหาการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนสูงและสามารถกระจายประเภทการลงทุนได้อย่างหลากหลาย กองทุนรวมก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณครับ เพราะคุณสมบัติเด่นของกองทุนรวม คือ มีผู้จัดการกองทุนคอยดูแล, ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และใช้เงินลงทุนต่ำ อีกทั้ง คุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ก็สามารถลงทุนได้อีกด้วย! 

วันนี้ทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ กำไรต่อเนื่อง 5 ปี สูงสุด 17.56% ส่งท้ายปี 2566 จะมีอะไรบ้าง? ไปหาคำตอบกันครับ!

กองทุนรวม หมายถึงอะไร

กองทุนรวม (Mutual Fund) หมายถึง การรวบรวมเงินจากนักลงทุน เพื่อนำมาลงทุนตามนโยบายที่กองทุนรวมนั้น ๆ กำหนดไว้ โดยมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเป็นผู้ช่วยในการบริหารเงินทุน สำหรับจุดเด่นของกองทุนรวมนั้น คือ นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนสูงก็สามารถลงทุนได้ ซึ่งกองทุนมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตราสาร, หุ้นกู้, การฝากเงินกับธนาคาร และการลงทุนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เป็นต้น

กองทุน RMF ตัวไหนดี 2566 ใช้ลดหย่อนภาษีได้จริงไหม?

กองทุน SPDR คือ อะไร? สายเทรดทองห้ามพลาด!

กองทุนรวมสามารถแบ่งลักษณะในการจัดจำหน่ายและไถ่ถอนออกเป็น 2 ประเภท ดังต่อไปนี้ 

  • กองทุนเปิด (Opened-End Fund) คือ กองทุนรวมที่กำหนดอายุโครงการหรือไม่ก็ได้ ซึ่งกองทุนลักษณะนี้ สามารถซื้อหรือขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมและต่อเนื่องได้ แม้ว่าจะมีการเสนอขายกองทุนในครั้งแรกไปแล้ว 
  • กองทุนปิด (Closed-End Fund) คือ กองทุนรวมที่กำหนดอายุโครงการไว้อย่างชัดเจน โดยมีการเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียวเท่านั้น คือ ช่วงเริ่มต้นโครงการ ซึ่งหลังจากนั้นจะไม่มีการเสนอออกขายหน่วยลงทุนใดเพิ่มเติม

โดยปกติแล้ว การลงทุนในกองทุนรวมมีให้เลือกหลากหลายประเภท โดยสามารถแบ่งออกได้ 8 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

  • กองทุนรวมตราสารหนี้ 
  • กองทุนรวมผสม
  • กองทุนรวมตราสารทุน
  • กองทุนรวมตลาดการเงิน
  • กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ
  • กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
  • กองทุนรวมเพื่อการออม
  • กองทุนรวมเพื่อเลี้ยงชีพ

  • ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ 
  • รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
  • มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย
  • มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเข้ามาช่วยดูแลการลงทุน 
  • เพิ่มความสะดวกสบายในการติดตามการลงทุน

สำหรับค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมที่นักลงทุนควรรู้มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายกองทุน คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เมื่อนักลงทุนทำการซื้อหรือขายกองทุน ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีนโยบายในการเสียค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือ เงินปันผลจากกองทุนรวมที่จะต้องจ่ายให้กับภาครัฐ ซึ่งนักลงทุนต้องจ่าย 10% ของเงินปันผลที่ได้รับ

ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายสินทรัพย์ในกองทุน คือ ค่าธรรมเนียมที่นักลงทุนต้องจ่ายให้กับกองทุน

ค่าธรรมเนียมเมื่อเปลี่ยนกองทุน คือ ค่าธรรมเนียมที่นักลงทุนต้องจ่ายเมื่อทำการย้ายกองทุน

ทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 3 ขั้นตอนของการเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจ เพื่อให้คุณสามารถเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับการลงทุนของคุณให้มากที่สุด โดยทั้ง 3 ขั้นตอน มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

ขั้นตอนแรก คือ คุณควรตั้งเป้าหมายในการลงทุนของตัวเองก่อน โดยคุณควรศึกษาว่า คุณต้องการลงทุนสินทรัพย์ประเภทอะไร และสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งดูได้จาก Sharpe Ratio รวมทั้ง คุณจำเป็นต้องกำหนดระยะเวลาในการลงทุนด้วย เพื่อให้การลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เมื่อตั้งเป้าหมายของตนเองได้แล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การพิจารณากองทุนรวมผ่าน Fund Fact Sheet หรือหนังสือชี้ชวน เพื่อศึกษาขนาดของกองทุน, การจ่ายเงินปันผลขั้นต่ำ, ผลประกอบการย้อนหลัง, ผลตอบแทนย้อนหลัง และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของกองทุนรวม เป็นต้น โดย Fund Fact Sheet สามารถศึกษาได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่คุณให้ความสนใจนั่นเอง

มาต่อกันที่ขั้นตอนสุดท้าย คือ การติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยควรติดตามผลอย่างน้อยในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่า กองทุนที่เราเลือกนั้น เป็นกองทุนที่ยังคงให้ผลตอบแทนดีอยู่

ทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 10 กองทุนรวมที่น่าสนใจ กำไรต่อเนื่องที่ดีที่สุด 5 ปี สูงสุด 17.56% ซึ่งทั้ง 10 กองทุนรวมมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

*หมายเหตุ : ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ Finnomena ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี : B-INNOTECH

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี : B-INNOTECH

นโยบายกองทุน

ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Fidelity Funds – Global Technology Fund (กองทุนหลัก) คือ กองทุนรวมต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จากความก้าวหน้าและการพัฒนาเทคโนโลยี โดยกองทุนรวมนี้ มีหน่วยลงทุนชนิด Class Y-ACC-USD ซึ่งเป็นกองทุนเดียว

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 8,620,245,363.23 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 10 มีนาคม 2560
  • บลจ. = BBLAM
  • หมวดกองทุน = Technology Equity
  • ค่าความเสี่ยง = 7 
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0%
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 1%
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 17.56%

กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว : K-USXNDQ-A(D)

นโยบายกองทุน

เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco QQQ Trust, Series 1 (กองทุนหลัก) ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยมีนโยบายลงทุนให้มีผลตอบแทนตามดัชนีหุ้นสหรัฐ NASDAQ-100

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 4,889,342,451.39 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 12 เมษายน 2556
  • บลจ. = KASSET
  • หมวดกองทุน = US Equity
  • ค่าความเสี่ยง = 6
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0.15% 
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 0%
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 500 บาท และครั้งถัดไป 500 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 17.35%

กองทุนเปิดแอสเซทพลัสนิปปอนโกรท : ASP-NGF

นโยบายกองทุน

ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Nippon Growth (UCITS) Fund (กองทุนหลัก) โดยเป็นกองทุนที่จดทะเบียนหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้นโยบายการลงทุนเน้นการลงทุนในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับหุ้นของบริษัทญี่ปุ่นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โอซาก้าหรือโตเกียว รวมทั้ง ยังเน้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ อีกด้วย แต่จะต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 791,371,325.15 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 23 มิถุนายน 2549
  • บลจ. = ASP
  • หมวดกองทุน = Japan Equity
  • ค่าความเสี่ยง = 6
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = N/A 
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 1.25%
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 14.13%

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม โกลบอล ฟันด์ : SCBPGF

นโยบายกองทุน

เน้นลงทุนในหน่วยการลงทุนรวมของต่างประเทศ คือ DWS Invest CROCI Sectors Plus ใน Share Class FCH (P) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยอยู่ในกลุ่มธุรกิจ Consumer Discretionary, Health Care, Information Technology, Consumer Staples, Materials, Industrials, Telecom Services, Utilities และ Energy (Equity Fund) รวมทั้ง ยังพิจารณาการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) อีกด้วย

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 785,333,534.43 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 4 กันยายน 2549
  • บลจ. = SCBAM
  • หมวดกองทุน = Global Equity
  • ค่าความเสี่ยง = 6
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = N/A
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 1.07% 
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 13.15%

กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้น Mid-Small Cap : KTMSEQ

นโยบายกองทุน

เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัทขนาดกลางและหรือขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มในการเติบโตทางธุรกิจ นอกจากนี้ กองทุนอาจพิจารณาการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ได้อีกด้วย

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 340,799,846.98 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 30 เมษายน 2558
  • บลจ. = KTAM
  • หมวดกองทุน = Equity Small – Mid Cap
  • ค่าความเสี่ยง = 6
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0% 
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 1%
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 12.17%

กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ : ASP-SME

นโยบายกองทุน

เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มในการเติบโตทางธุรกิจ โดยเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง นอกจากนี้ กองทุนอาจพิจารณาการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ได้อีกด้วย

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 1,234,762,393.91 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 2 สิงหาคม 2560
  • บลจ. = ASP
  • หมวดกองทุน = Equity General
  • ค่าความเสี่ยง = 6
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = N/A
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 1.25% 
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1 บาท และครั้งถัดไป 1 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 11.80%

กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ หุ้นระยะยาว : ASP-SMELTF-T

นโยบายกองทุน

ลงทุนในตราสารทุนและหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มในการเติบโตทางธุรกิจ โดยเน้นลงทุนในบริษัทขนาดกลาง-ขนาดเล็ก และในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 485,159,565.99 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 23 พฤศจิกายน 2560
  • บลจ. = ASP
  • หมวดกองทุน = Equity General
  • ค่าความเสี่ยง = 6
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = N/A
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 0% 
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 5,000 บาท และครั้งถัดไป 5,000 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 11.14%

กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป หุ้นระยะยาว : MIDSMALLLTF

นโยบายกองทุน

เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มในการเติบโตของธุรกิจตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงระดับสูง โดยมีอัตราส่วนการลงทุนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 98,793,056.47 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 24 พฤศจิกายน 2560
  • บลจ. = MFC
  • หมวดกองทุน = Equity Small – Mid Cap
  • ค่าความเสี่ยง = 6
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0%
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 0% 
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 9.87%

กองทุนเปิดทาลิส MID-SMALL CAP หุ้นทุน : TLMSEQ-A

นโยบายกองทุน

ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี อีกทั้ง มีแนวโน้มในการเติบโตทางธุรกิจที่ดีอีกด้วย

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 209,364,928.09 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 20 ธันวาคม 2559
  • บลจ. = TALISAM
  • หมวดกองทุน = Equity Small – Mid Cap
  • ค่าความเสี่ยง = 6
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0%
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 1% 
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 9.76%

กองทุนเปิด ทิสโก้ เฟล็กซิเบิ้ล พลัส : TISCOFLEXP

กองทุนเปิด ทิสโก้ เฟล็กซิเบิ้ล พลัส : TISCOFLEXP

นโยบายกองทุน

เน้นการกระจายเงินลงทุนในตราสารทุน, ตราสารหนี้ และเงินฝาก รวมทั้งหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่นตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศเอาไว้

รายละเอียดกองทุน

  • มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ = 242,042,713.32 บาท
  • วันที่จดทะเบียน = 30 พฤษภาคม 2539
  • บลจ. = TISCOAM
  • หมวดกองทุน = Aggressive Allocation
  • ค่าความเสี่ยง = 6
  • ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน = 0%
  • ค่าธรรมเนียมขาย = 1% 
  • การซื้อครั้งแรก = ขั้นต่ำ 1,000 บาท และครั้งถัดไป 1,000 บาท
  • ผลกำไรย้อนหลังเฉลี่ย 5 ปี = 9.48%

คุณกำลังมองหาบทความเกี่ยวกับการลงทุนอื่น อยู่หรือเปล่า?

Market Cap คืออะไร? ดูได้จากตรงไหน และทำไมนักลงทุนจึงควรรู้ไว้!

ซื้อหุ้นตัวไหนดี ? เปิด 3 หุ้นน่าลงทุนระยะยาว ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตเกือบ 90%

Yield คืออะไร? หนึ่งในตัวช่วยหาผลตอบแทนจากการลงทุน มือใหม่ควรรู้!

สุดยอด! 10 หุ้นปันผลสูง 2566 หุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน จ่ายปันผลมานานกว่า 10 ปี

5 หุ้นกู้ออกใหม่ เดือนพฤศจิกายน 2566 จ่ายดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4.95% ต่อปี ห้ามพลาด!

6 หุ้นธุรกิจ Healthcare ลงทุนอย่างไรดี? เมื่อโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ!

การลงทุนในกองทุนรวมดีอย่างไร?

  • ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ 
  • รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
  • มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย
  • มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเข้ามาช่วยดูแลการลงทุน 
  • เพิ่มความสะดวกสบายในการติดตามการลงทุน

การลงทุนกองทุนรวม ต้องรู้อะไรบ้าง?

การลงทุนในกองทุนรวม คุณต้องรู้ถึงจุดประสงค์ในการลงทุนของคุณก่อน หลังจากนั้น คุณจำเป็นต้องศึกษาความรู้เกี่ยวกับกองทุนรวมให้ดี ประกอบกับเช็กค่าธรรมเนียม, ความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้, ผลตอบแทนย้อนหลัง 5 – 10 ปี และติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดนั่นเอง

นักลงทุนควรซื้อกองทุนไหนดี ปี 2566

  • B-INNOTECH ของบลจ. BBLAM
  • K-USXNDQ-A(D) ของบลจ. KASSET
  • ASP-NGF ของบลจ. ASP
  • SCBPGF ของบลจ. SCBAM
  • KTMSEQ ของบลจ. KTAM
  • ASP-SME-A ของบลจ. ASP
  • ASP-SMELTF-T ของบลจ. ASP
  • MIDSMALLLTF ของบลจ. MFC
  • TLMSEQ-A ของบลจ. TALISAM
  • TISCOFLEXP ของบลจ. TISCOAM

จากที่กล่าวไปข้างต้น ทีมงาน Gotradehere ได้รวบรวม 10 กองทุนรวมที่น่าสนใจมาให้คุณได้พิจารณาการเลือกสรรกองทุนรวมที่เหมาะกับคุณที่สุด เพราะกองทุนรวมสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดี อย่างไรก็ตาม การลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนให้ละเอียดและรอบคอบ เพราะไม่อย่างนั้น คุณอาจเสี่ยงในการขาดทุนได้เช่นกัน


อ่านบทความเพิ่มเติม: Knowledge

อ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ ได้ที่: Review Broker

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม: News

Table of Contents
TOP FOREX BROKERS
1
5/5
IUX Markets
IUX Markets
5/5
2
3/5
IC Markets
IC Markets-top-forex-brokers
IC Markets
4/5
3
4/5
FXGT.com
FXGT.com
4/5
4
3/5
Hantec Markets
Hantec Markets
3/5
5
4/5
Eightcap
Eightcap
3/5

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

– Advertisement –

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

FOLLOW US
บทความที่เกี่ยวข้อง

– Advertisement –